ในรายงาน “เรื่องเล่าของเรา” ที่มีความยาว 16 หน้าของกลุ่มฮามาส และเผยแพร่ออกมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 ม.ค.) เพื่อเป็นการ “ชี้แจง” ความเป็นมาและพลวัตของการโจมตีที่ไม่คาดฝัน ที่กลุ่มฮามาสเรียกชื่อว่าเป็นปฏิบัติการน้ำซัดอัลอักซอ ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวนับเป็นรายงานสาธารณะฉบับแรก นับตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยกลุ่มฮามาสกล่าวว่าการโจมตีในวันนั้น “เป็นขั้นตอนที่จำเป็น และเป็นการตอบสนองตามปกติในการเผชิญหน้ากับแผนการสมรู้ร่วมคิดของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์”
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าของวันที่ 7 ต.ค. นักรบฮามาสได้บุกโจมตีชุมชนต่างๆ ตามแนวรั้วทางตอนใต้ของอิสราเอลติดกับฉนวนกาซา โดยการโจมตีดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,139 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และยังมีประชาชนในอิสราเอลอีกประมาณ 240 คนถูกจับเป็นตัวประกัน ทั้งนี้ ตัวประกันประมาณ 100 คนได้รับการปล่อยตัวในระหว่างการหยุดยิง 7 วันในช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนออกจากเรือนจำของอิสราเอล
ทางการอิสราเอลกล่าวหานักรบฮามาสว่าก่ออาชญากรรมสงครามระหว่างการโจมตีในวันดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการทรมาน ข่มขืน และทำร้ายร่างกาย อย่างไรก็ดี กลุ่มฮามาสปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงและหรือการทำร้ายทางเพศอย่างแข็งขัน
รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า กลุ่มฮามาสวางแผนที่จะกำหนดเป้าหมายการโจมตี ในสถานที่ทางทหารของอิสราเอลและจับกุมทหารอิสราเอล ซึ่งอาจนำไปใช้กดดันทางการอิสราเอลให้ปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์หลายพันคนที่ถูกคุมขังในเรือนจำของอิสราเอล ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสกล่าวอ้างในรายงานว่า การหลีกเลี่ยงการทำร้ายพลเรือน “เป็นความมุ่งมั่นทางศาสนาและศีลธรรม” โดยนักรบจากกองพันกอสซัม ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธของกลุ่มฮามาส
“หากมีกรณีมุ่งเป้าไปที่พลเรือน มันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ และระหว่างการเผชิญหน้ากับกองกำลังยึดครอง (กองกำลังอิสราเอล)” รายงานระบุพร้อมกล่าวเสริมว่า “อาจมีข้อผิดพลาดบางอย่างเกิดขึ้น” ระหว่างการโจมตี “เนื่องจากการล่มสลายอย่างรวดเร็วของระบบความมั่นคง และการทหารของอิสราเอล และความโกลาหลที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้ฉนวนกาซา… ชาวอิสราเอลจำนวนมากถูกสังหารโดยกองทัพและตำรวจอิสราเอล เนื่องจากความสับสนของพวกเขา” กลุ่มฮามาสระบุ
อิสราเอลตอบโต้การโจมตีดังกล่าวของฮามาส ด้วยการทิ้งระเบิดทำลายล้างฉนวนกาซา ซึ่งอยู่ภายใต้การปิดล้อมของอิสราเอลมานาน 17 ปี และคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 25,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนผู้หญิงและเด็ก ในขณะที่เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์และกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาอิสราเอล ว่าก่ออาชญากรรมสงครามใระหว่างการโจมตีฉนวนกาซา
รายงานของฮามาสยังระบุถึงประเด็นเรื่องฉนวนกาซาหลังสงคราม ภายในช่วงวันเดียวหลังจากที่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกมาคัดค้านต่อข้อเสนอเรื่องสถานะการตั้งรัฐปาเลสไตน์อย่างรุนแรง “เราเน้นย้ำว่าชาวปาเลสไตน์มีความสามารถในการตัดสินใจอนาคตของตนเอง และจัดการกิจการภายในของตนได้” รายงานของฮามาสระบุ พร้อมระบุเสริมว่า “ไม่มีกลุ่มใดในโลก” มีสิทธิ์ตัดสินใจในนามของพวกเขา
รายงานยังระบุถึงเหตุผลที่นำไปสู่การโจมตีโดยฮามาส ด้วยการอ้างถึงการรณรงค์ของอิสราเอลในการสร้างการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ปาเลสไตน์ “และการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์และกรุงเยรูซาเล็มที่ถูกยึดครอง” และการสังหารพลเรือนชาวปาเลสไตน์หลายพันคนตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจุบันนี้
ที่มา: