อัล-อารูรีถูกสังหารโดยโดรนของอิสราเอล เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (2 ม.ค.) โดยกลุ่มฮามาสกล่าวโจมตีว่าเกิดขึ้นจาก “การโจมตีของไซออนิสต์ที่ทรยศหักหลัง” ทั้งนี้ อิซซัต อัล-ชาร์ก สมาชิกโปลิตบูโรของฮามาส ระบุว่าเหตุการณ์โจมตีโดยโดรนของอิสราเอลในครั้งนี้เป็น “การลอบสังหารอย่างขี้ขลาด”
ทั้งนี้ อัล-อารูรีเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะกรรมาธิการของกลุ่มฮามาส และเป็นที่รู้กันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งในกิจการทางทหารของกลุ่มฮามาส โดยก่อนหน้านี้ อัล-อารูรีเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มฮามาสที่ปรากฏตัวอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
ซามีร์ ฟินดี อาบู อาเมอร์ และอัสซาม อัล-อัครา อาบู อัมมาร์ ผู้นำกองพลกอสซัมกลุ่มติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ยังเป็นผู้ที่ถูกสังหารโดยโดรนของอิสราเอลในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกอีก 4 คนในกลุ่มฮามาสที่ถูกสังหารในการโจมตีครั้งนี้เช่นกัน
ก่อนหน้าการแถลงของกลุ่มฮามาส สำนักข่าวแห่งชาติของเลบานอนรายงานว่า เหตุระเบิดดังกล่าวคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 6 ราย และโดรนที่ใช้โจมตีในครั้งนี้เป็นของอิสราเอล
กลุ่มฮามาระบุว่าการสังหารอัล-อารูรีจะไม่เป็นการ “บ่อนทำลายการต่อต้านอย่างกล้าหาญที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ในฉนวนกาซา ซึ่งนักรบของกลุ่มปาเลสไตน์กำลังต่อสู้กับกองกำลังภาคพื้นดินของอิสราเอล “มันพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของศัตรู ในการบรรลุเป้าหมายเชิงรุกใดๆ ในฉนวนกาซา” อิซซัต อัล-ริชก์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาส กล่าวในแถลงการณ์
อิสมาอิล ฮานีเยห์ ผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาส ออกมากล่าวประณามการโจมตีดังกล่าวของอิสราเอลว่าเป็น “การก่อการร้าย” ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยของเลบานอน และเป็นการการขยายขอบเขตความเป็นปรปักษ์ของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ นอกจากนี้ ฮานีเยห์ยังกล่าวในการแถลงผ่านทางโทรทัศน์ว่า กลุ่มฮามาส “จะไม่มีวันพ่ายแพ้”
อย่างไรก็ดี มาร์ก เรเจฟ ที่ปรึกษาของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวกับสถานีข่าว MSNBC ของสหรัฐฯ ว่า อิสราเอลไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว แต่ “ใครก็ตามที่เป็นคนทำ มันต้องมีความชัดเจนว่านี่ไม่ใช่การโจมตีรัฐเลบานอน” แต่เรเจฟกล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นการโจมตีผู้นำของกลุ่มฮามาส
นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีเลบานอน ประณามการสังหารในครั้งนี้ โดยแถลงการณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรีเลบานอนระบุว่า การโจมตีดังกล่าว “มุ่งหวังที่จะดึงเลบานอนเข้าสู่ระยะใหม่ของการเผชิญหน้า” กับอิสราเอล ในช่วงเวลาที่ฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของกลุ่มฮามาสแลกเปลี่ยนการยิงข้ามพรมแดนกันในทุกวัน กับกองกำลังอิสราเอลทางตอนเหนือของอิสราเอล
อิหร่านซึ่งให้การสนับสนุนทั้งฮามาสและฮิซบอลเลาะห์กล่าวว่า การสังหารอัล-อารูรีจะสร้างการต่อต้านอิสราเอลมากขึ้น “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเลือดของผู้พลีชีพจะจุดประกายกระแสแห่งการต่อต้าน และแรงจูงใจในการต่อสู้กับผู้ยึดครองไซออนิสต์ ไม่เพียงแต่ในปาเลสไตน์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงในภูมิภาคนี้ และในหมู่ผู้แสวงหาอิสรภาพทั่วโลกด้วย” นัสเซอร์ คานาอานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าว นอกจากนี้ คานาอานียังประณามการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเลบานอน
ก่อนหน้านี้ เนทันยาฮูขู่ว่าอิสราเอลจะสังหารอัล-อารูรีมานาน ก่อนที่อิสราเอลจะเข้าโจมตีฉนวนกาซาครั้งล่าสุดที่ถูกปิดล้อมมาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่กองกำลังอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์เริ่มยิงกันข้ามชายแดนเลบานอน-อิสราเอลเมื่อวันที่ 8 ต.ค. การสู้รบส่วนใหญ่ได้กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ของแต่ละประเทศไม่กี่กิโลเมตรจากพรมแดน อย่างไรก็ดี มีการโจมตีหลายครั้งที่กองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีตำแหน่งที่ตั้งของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในเลบานอน
ในขณะเดียวกัน ที่มัสยิดในเมืองอารูรา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้นำกลุ่มฮามาสที่ถูกสังหารในเขตเวสต์แบงก์ มีชาวชาวปาเลสไตน์ไปรวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยการเสียชีวิตของอัล-อารูรี ยังมีการประท้วงและการชุมนุมเกิดขึ้นในเมืองรามัลลอฮ์และเมืองใกล้เคียงอีกหลายแห่ง อาทิ เมืองเดียร์กัดดิส
ที่มา: