พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงหลังจากที่นั่งฟังมาตลอดทั้งวัน โดยกล่าวว่า มีการกล่าวหาตนจำนวนมากขอให้เป็นไปตามระเบียบ หน่วยงานและกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบ ผลออกมาอย่างไรยินดีน้อมรับ ทั้งเรื่องส่วนตัว พฤติกรรมหรือการพูดจาต่างๆ ยอมรับว่าบางครั้งมีการกดดันตนมากพอสมควร โดยเฉพาะในสื่อโซเชียลซึ่งตนก็อดทน
“และวันนี้ผมก็อดทนมาเกือบ 3 วันแล้ว แต่ความจริงผมทนได้มาโดยตลอด ยิ้มแย้ม แจ่มใสมาโดยตลอดและนี่คือบุคลิกของผมจริงๆ ถ้าไม่มีใครมายั่วยุมากนัก ผมก็เป็นคนเบิร์ดๆ อย่างนี้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงถึงเหตุการณ์คนร้ายราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ว่า หลายคนสงสัยว่าตนลงพื้นที่ไปแล้วไปยกนิ้วทำไม ซึ่งต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ในวันนั้นเกิดขึ้นในตอนบ่าย ซึ่งเป็นวันหยุดราชการและตอนเย็นตนมีภารกิจจึงไม่สามารถลงไปในพื้นที่ได้ แต่ได้สั่งการในช่วงค่ำให้ รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. มอบหมายให้ ผบ.ตร. พร้อมหน่วยปราบปรามพิเศษลงไปในพื้นที่ เพื่อเตรียมปฏิบัติการในขั้นที่สอง ช่วงแรกถือเป็นขั้นที่หนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
เมื่อสถานการณ์ในขั้นที่สองเกิดความรุนแรงขึ้น และการกระทำเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนความผิดถูกโดยมีพยานในขณะนี้ถึง 209 ปาก 209 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวนกันอยู่ว่ามีความบกพร่องที่ไหน และอย่างไร สิ่งใดที่กองทัพบกต้องน้อมรับก็น้อมรับ และหามาตรการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกให้ได้ ซึ่งมาตรการต่างๆได้มีการทำความพร้อมไว้ทั้งหมด
“และในวันที่ผมลงพื้นที่ไปในวันรุ่งขึ้น ยืนยันว่าผมไม่ได้ไปครึกครื้นอย่างที่มีบางคนคัดตัดตอนออกมา ที่ผมเดินทางไปตอนเช้า ซึ่งขณะนั้นไม่รู้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปอย่างไร และไม่ใช่ว่าผมไปเพื่อเอาหน้า เพราะในวันดังกล่าวได้มอบหมายให้ผบ.ตร. ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ผบ.พื้นที่มีที่ปรึกษาและมีการใช้กำลังตามลำดับ แต่ช่วงเช้าวันนั้นผมทราบว่าจะมีการปฏิบัติการ ผมจำเป็นต้องเดินทางไปควบคุม เพราะผมเป็นผู้รับผิดชอบในขั้นที่สาม ซึ่งถ้าสถานการณ์ถึงขั้นหนักที่สุด คือ การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การใช้กำลังของศูนย์บัญชาการการก่อการร้ายสากล ซึ่งผมได้เตรียมกำลังเหล่านี้ไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปประมาณ 20 นาทีก็ได้รับรายงานว่า การปฏิบัติการเรียบร้อยตามแผนที่ได้ขออนุมัติก่อนหน้านี้ สถานการณ์ก็จบแค่นั้น"
"เมื่อผมไปถึงได้เข้าคลี่คลายสถานการณ์ ซึ่งมี 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ การขึ้นไปเยี่ยมเยียนด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสียได้รับความบาดเจ็บ ผมเศร้า ผมเสียใจ แต่เมื่อเดินลงมาข้างล่างก็เป็นอีกสถานการณ์ เมื่อมีประชาชนจำนวนมากมาต้อนรับ โบกมือให้กำลังใจให้ผมสู้และแก้ปัญหาให้กับชาวโคราช ผมก็ตอบสนองเขา แต่ปรากฏว่าเอามาพาดหัวข่าวว่าผมไม่เศร้า แสดงกิริยาไม่เหมาะสม และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจแต่ทุกอย่างได้ดำเนินการอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ ขอร้องอย่าใช้ประเด็นนี้มาเป็นประโยชน์ในเรื่องอื่นๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงการดูแลหนี้สินของประชาชนซึ่งรัฐบาลได้พยายามทำทุกอย่างเต็มที่ และแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ และกำหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลไหนคิดหรือทำมาก่อน มีการคืนโฉนดที่ดินให้กับราษฎร ดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องและถ้าวันนี้ใครยังมีปัญหาก็ขอให้แจ้งเข้ามา หากพบข้าราชการทุจริตก็ลงโทษเด็ดขาด วันนี้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนขอให้ทำงานร่วมกัน และวันนี้เป็นที่น่ายินดีที่งบประมาณรายจ่ายประขำปีงบประมาณ 2563 สามารถใช้ได้แล้ว ซึ่งรัฐบาลจะเร่งดำเนินงานในแผ่นงานต่างๆโดยเร็ว แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างมีกฎหมายบังคับอยู่
แจงรัฐบาลเข้มจับกุมบ่อนพนันวิ่ง-ถาวร ยังมีสถิติทุกจังหวัด วอนมีข้อมูลบอกมา ยันไม่ปิดบังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 โวไทยอันดับ 1 ของเอเชียในการป้องกัน ลั่นชีวิตคนไทยสำคัญสุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลที่ฝ่ายค้านระบุว่าสามารถซื้อได้ง่าย ยืนยันว่าประเทศไม่ได้เป็นประเทศฐานการผลิต เป็นเพียงแค่ทางผ่านไปยังประเทศปลายทาง ยืนยันว่าได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน 5 ประเทศมีการหารือ มีการทำลายโรงงานซึ่งเป็นข้อมูลลับจะพูดในรายละเอียดไม่ได้ แต่ยืนยันว่ามีการพูดคุยกันในระดับผู้นำรัฐบาล และผู้นำทหาร แต่ยอมรับว่าราคายาเสพติด ยาบ้ามีการขึ้นลง เพราะใช้เครื่องจักรมาผลิตวันละเป็นล้านเม็ด ผลการจับกุมจึงมีมากขึ้น แต่รัฐบาลดำเนินการทั้งการป้องกันและปราบปราม อย่างต่อเนื่องมีการฟื้นฟูยาเสพติดตอนนี้กำลังเร่งดำเนินการสืบหานายทุนเพื่อลงโทษและยึดทรัพย์ ขอแจ้งเตือนไว้เลยว่าใครที่เกี่ยวข้องขอให้ระวังตัวไว้ด้วย ซึ่งวันนี้ประชาชนร้อยละ 95 พอใจการทำงานของรัฐบาล แต่ถ้ายังมีขอให้แจ้งเข้ามาพร้อมที่จะจับกุมดำเนินคดีและที่น่ากลัวคือสารตั้งต้นในการผลิตเปลี่ยนจากดอกฟิ่นมาเป็นสารเคมีตั้งต้นรูปแบบใหม่ เช่น โซเดียมไซยาไนด์ กรดไฮโดรคลอริกจึงทำให้ยาเสพติดมีราคาถูกและรุกลามในภูมิภาคเรามากขึ้น
นายกฯกล่าวถึงเรื่องบ่อนการพนันกลางกรุงว่า รัฐบาลได้กำชับเข้มงวดกวดขัน โดย 5 ปีที่ผ่านมา มีการจับกุมในภาพรวม 246,840ราย ผู้ต้องหา 8,950 คน เฉลี่ยต่อปีจาก 49,368 ราย ผู้ต้องหา 105,790 ราย ซึ่งบางทีเป็นทั้งบ่อนวิ่งและบ่อนถาวร เราต้องการจับทั้งหมดถ้าใครมีข้อมูลให้บอกมา หากพูดกันตรงนี้พอจะไปจับก็หนีหมด เพราะออกสื่อฉะนั้นกรุณาบอกตน ผลการจับกุมในพื้นที่กรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆมีการจับกุมและมีการบันทึกสถิติการจับกุมผู้ต้องหาไว้ทุกจังหวัด หากมีเวลาจะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อมูล
นายกฯกล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการเรื่องไวรัสโคโรน่า รัฐบาลได้มีการเตรียมการล่วงหน้ามากพอสมควรก่อนที่เขาจะประกาศแต่ตนไม่อยากให้ ครึกโครมจนเกินไปโดยมีการเตรียมพร้อมบุคลากรด้านสาธารณสุข เมื่อมีการประกาศก็ต้องเข้มงวดในการดำเนินการ
"วันนี้เราสามารถคอนโทรลได้ในระดับหนึ่งแต่รัฐบาลก็ไม่ประมาท ไม่ได้บอกว่าจะไม่ติดหรืออะไรต่างๆ ซึ่งอยู่ที่ตัวของพวกเราทุกคนด้วย อย่างที่ในสภามีการระวังกันก็ดีอยู่แล้ว สิ่งสำคัญสุดเราต้องระวัง และต้องมีมาตรการ ซึ่งรัฐบาลมีมาตรการต้นน้ำกลางน้ำปลายน้ำ การตรวจสอบที่สนามบินการติดตามที่บ้าน ในพื้นที่ควบคุมโรค 21 วันหรือ 14 วัน และเดี๋ยววันนี้ก็คงจะมีมาตรการ แต่สิ่งที่ตามมา คือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจากการประเมินของต่างประเทศจะเกิดขึ้นระยะยาวพอสมควร ไม่รู้จะจบสิ้นเมื่อไหร่ ฉะนั้นมีผลกระทบแน่นอน การเดินทางไปมาหาสู่ ในหลายประเทศก็ห้าม สิ่งสำคัญประเทศต้นทางห้ามอยู่แล้ว ไม่ให้ใครมาหรอก การที่เราไปรับคนไทยกลับไม่ใช่ช้าหรือไม่ช้า เดิมเตรียมความพร้อมแต่เขาไม่ให้เครื่องบินพาณิชย์บิน จนกระทั่งให้บินได้โดยสายการบินพาณิชย์ ของไทยที่บินอยู่แล้ว เมื่อเขาหยุดบินในตอนนั้นเราจึงได้เตรียมเครื่องบินทหารไว้ แต่เป็นความจำเป็นของเขา ซึ่งต้องฟังกันบ้าง"
ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัย นายกฯ กล่าวว่า พูดไปหลายครั้งแล้ว รัฐบาลไม่ได้อยากขาย แต่เราขอตัดยอดจากร้านมา ไปขอแบ่งเขามาซึ่งตามร้านไม่มีขาย ขณะเดียวกันในส่วนของรัฐบาลก็จากไปเป็นแสนเป็นล้าน และก็กำลังจะแจกอีก และกำลังเตรียมทำหน้ากากผ้าโดยให้ชุมชนท้องถิ่นเย็บหน้ากากผ้าเพื่อมีรายได้เป็นของตัวเองโดยกระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกจังหวัดจะช่วยหารายได้ให้กับประชาชน โดยให้ผลิตเองซึ่งป้องกันได้เหมือนกันรับรอง โดยกระทรวงสาธารณสุข สามารถซักได้ จะเขียน Fashion อย่างไรก็ตามสะดวก จะได้สบายใจกัน ส่วนการเคลื่อนย้ายต่างๆ วันนี้ยังมีปัญหาอยู่ที่ประเทศต้นทาง ซึ่งการเคลื่อนย้ายค่ามณฑลยังไม่มีการอนุญาต เราต้องฟังต้นทาง และขอความร่วมมือกัน ในเรื่องอื่นๆต่อไป ยาวัคซีนซึ่งโชคดี ที่โรงพยาบาลราชวิถีของเราได้มีการคิดค้นวัคซีนระยะที่ 1 ซึ่งก็ต้องทดลองต่อไป ได้ทดลองไปแล้วมีผลส่วนหนึ่งแต่อาจจะไม่ ได้ผลกับคนอีกส่วนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นต้องมีการคัดกรอง
"เราไม่ได้มีการปิดบังหรือบิดเบือนตัวเลข ซึ่งได้มีการชี้แจงทุกวัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเตรียมความพร้อมมากที่สุด สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย เป็นประเทศแรกที่มีการคัดกรองทุกสนามบิน มีบุคลากรทางการแพทย์อาสาสมัครที่มี ความสามารถของทุ่มเท เสียสละมากมาย หมอทหารตำรวจไปช่วยกันทุกคน เพราะชีวิตและสุขภาพของคนไทยสำคัญที่สุด ขอให้ร่วมมือกันไป"