ไม่พบผลการค้นหา
มาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลทั่วโลกอย่างการสร้าง 'ระยะห่างทางสังคม' อาจสร้างงานเพิ่มมากถึง 15 ล้านตำแหน่งในช่วงเวลา 10 ปีต่อจากนี้​ในสหรัฐฯ

เว็บไซต์ Business Insider รายงานว่า โควิด-19 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับชีวิตการทำงานของคนทั่วโลก พนักงานนับล้านในหลายประเทศปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในการปักหลักทำงานที่บ้านแทน เพื่อลดการพบปะผู้คนอันจะนำไปสู่การลดอัตราแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้บรรดาบริษัทน้อยใหญ่ได้เรียนรู้ว่าพนักงานของพวกเขาสามารถทำงานเสร็จได้ตามที่ได้รับมอบหมายแม้ไม่ได้เข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ

อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์การระบาดสงบลง โลกต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหม่อย่างการว่างงานด้วยจำนวนมหาศาลที่คาดไม่ถึงของประชาชนทั่วทุกมุมโลก โดยในสหรัฐฯเอง ชาวอเมริกันมากถึง 3.3 ล้านคนได้ยื่นเอกสารถึงกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเพื่อยืนยันตัวตนการเป็น 'บุคคลว่างงาน' ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของมีนาคมที่ผ่านมา 

หนึ่งในกลยุทธ์ที่สหรัฐฯจะสามารถนำมาใช้ได้ในการเพิ่มอัตราการจ้างงานหลังวิกฤตการณ์โรคระบาดผ่านพ้น ก็คือการที่บริษัทต่างๆจะต้องรายงานข้อมูลทุกอย่างที่พวกเขาได้เรียนรู้ในช่วงที่พนักงานของบริษัทนั้นทำงานมาจากที่บ้านเพื่อสร้างระยะห่างทางสังคมให้กับทางการได้นำไปวิเคราะห์และวางแผน และหากบริษัทต่างๆมีความสมัครใจที่จะจ้างงานพนักงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน และพนักงานที่เลือกจะทำงานจากทางไกลหรือจากที่บ้าน ผู้คนจำนวนมากก็จะได้รับโอกาสในการมีงานทำ โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานที่กำลังหางานในช่วงเวลาหลังวิกฤติ 

จูเลีย พอลแล็ก นักศรษฐศาสตร์แรงงานจากบริษัทจัดหางาน ZipRecruiter กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของการทำงานจากทางไกลอาจสามารถกระตุ้นอัตราการจ้างงานในสหรัฐฯได้สูงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลา 10 ปีต่อจากนี้ไป ซึ่งนั่นหมายถึงประชากรกว่า 15 ล้านคนของสหรัฐฯ 

พอลแล็กชี้ว่า ปัจจัยหลักที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวขึ้นนั้นคือค่าใช้จ่ายด้านอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทต่างๆต้องแบกรับมีแนวโน้มจะลดลงเมื่อพนักงานของพวกเขาเลือกทำงานจากทางไกล และอาจมีการจ้างงานกลุ่มพนักงานสูงวัยที่กำลังจะเกษียน หรือกลุ่มพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกแต่สามารถทำงานจากที่บ้านได้เข้ามาสู่ตลาดแรงงานอีกครั้ง

สถานการณ์แบบ วิน-วิน อีกอย่างหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ และจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อบรรดาเจ้าของธุรกิจก็คือ การจ้างงานพนักงานฝีมือที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าทำงานที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งได้เนื่องจากพวกเขามีข้อจำกัดเรื่องของที่อยู่อาศัยที่ไกลจากสำนักงานจนเกินไป และต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางจนทำให้ไม่สามารถเข้าทำงานในบริษัทนั้นๆได้ แต่สถานการณ์นี้อาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อนโยบายการทำงานจากทางไกล หรือการทำงานจากบ้านกลายเป็นเรื่องปกติ โดยมีเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักในการสร้างความเป็นไปได้ให้กับตลาดแรงงานในยุคปัจจุบัน