วันที่ 6 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานก่อนการลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างวันที่ 6-8 เมษายน 2567 ในวันเดียวกันนี้รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี และเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะเยี่ยมชมกิจกรรม-โครงการตามนโยบายรัฐบาล และรับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชน อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ที่บริษัท นิว ไบโอดีเซล จำกัด ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มโอเลอิน ก๊าซชีวภาพ รวมทั้งรับทราบถึงกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์ม กระบวนการผลิตน้ำมันปาล์ม การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และการนำไปเป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมด้านอาหาร อุตสาหกรรมด้านสินค้าอุปโภคต่าง ๆ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนในด้านต่างๆ ดังนี้ 1.การจัดมาตรฐานของคุณภาพปาล์ม โดยขณะนี้คุณภาพของปาล์มยังมีคุณภาพไม่เพียงพอจึงอยากให้รัฐบาลเข้ามามีส่วนในการจัดมาตรฐานว่าปาล์มชนิดไหนนับเป็นปาล์มที่มีคุณภาพสำหรับการให้ราคาก็จะทำให้ได้ราคาที่ดีตามคุณภาพของปาล์ม 2. กระตุ้นให้มีการปลูกปาล์มเพิ่มมากขึ้น แต่ต้องมีการสำรวจว่าพื้นที่ไหนมีความเหมาะสมในการปลูกปาล์ม ปลูกแล้วได้ปาล์มที่มีคุณภาพ 3.การส่งเสริมไบโอดีเซล ตามเป้าหมายที่ประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) 4. เพิ่มช่องทางการขายซึ่งในขณะนี้กำลังการผลิตปาล์มมีสูง แต่แหล่งหรือตลาดที่จะขายปาล์มนั้นมีจำกัดจึงอยากให้รัฐบาลเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและเป็นตัวเลือกในการแก้ไขปัญหาเมื่อเจอวิกฤตราคาปาล์มต่ำได้ 

จากนั้นคณะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์ยางพาราที่สำนักงานตลาดกลางยางพารา อ.เมือง จ. สุราษฎร์ธานี โดย สมจิตร คล้ายประสงค์ นายกสมาคมผู้ผลิตยางแผ่นรมควันภาคใต้ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ที่สนองนโยบายรัฐบาล ทำราคายางสูงขึ้นตั้งแต่ 48 บาท ในเดือนกันยายน 2566 จนถึงปัจจุบันราคาสูงขึ้นถึง 94 บาท โดยเฉพาะแผ่นยางรมควัน ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 5,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องออกเงินเลยสักบาท รวมถึงไม่ต้องมีโครงการแทรกแซง แค่จัดการบริหารการตลาด และปราบยางเถื่อน ผลิตภัณฑ์มวลรวม 11,000 ล้านบาท 

พร้อมฝากทีมรองโฆษกรัฐบาล นำเรื่องราวต่างๆไปเรียนต่อนายกรัฐมนตรี และส่วนที่เกี่ยวข้องเพราะอยากให้ราคายางมีราคาเพิ่มขึ้นถึงหลักร้อย พร้อมเปิดเผยได้ว่าในวันที่ 20 เมษายนนี้ ร.อ.ธรรมนัส จะมาคิกออฟเรื่องราคายางพารา

สมจิตร ยอมรับว่า ที่ราคายางขึ้นราคาส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการจับกุมผู้นำเข้ายางพาราเถื่อน เนื่องจากว่าปริมาณปริมาณดีมานด์และซัพพลาย ยังเท่าเดิมแต่ราคาปรับสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และหวังว่าในเวลาอันใกล้นี้ราคายางจะแตะที่ 100 บาท