นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงฯ จะเร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานอื่นๆ เบิกจ่ายงบประมาณในโครงการลงทุนปี 2562 ส่วนที่ยังล่าช้าหรือคั่งค้างอยู่โดยเร็ว เพื่อกระตุ้นเม็ดเงินให้ออกสู่ระบบอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปีนี้ ท่ามกลางปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบ
"มาตรการเร่งรัดโครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้มีภูมิคุ้มกันเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ควบคู่กับการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานที่เท่าทันเทคโนโลยี ส่งเสริมการลงทุนระดับฐานรากและลดความเหลื่อมล้ำด้านพลังงาน แต่การใช้จ่ายงบประมาณทั้งหมดต้องมีความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาลควบคู่ไปด้วย" นายสนธิรัตน์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในปี 2562 ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ณ เดือนมิถุนายน 2562 บมจ.ปตท. (PTT) มีแผนใช้งบลงทุนรวม 49,670 ล้านบาท โดยมียอดเบิกจ่ายสะสมตั้งแต่ต้นปี 11,015 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีแผนใช้งบลงทุนรวม 48,194 ล้านบาท มียอดเบิกจ่ายสะสมตั้งแต่ต้นปี 22,348 ล้านบาท ส่วนการจัดทำงบประมาณลงทุนรัฐวิสาหกิจในปี 2563 ในขณะนี้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งอยู่ระหว่างดำเนินการและขออนุมัติตามระบบงบประมาณเพื่อให้มีศักยภาพสูงสุด
ทั้งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายให้กับหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงพลังงาน วันที่ 15 สิงหาคม 2562 นี้ ก็จะได้รายงานมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมทั้งมาตรการลดภาระผู้มีรายได้น้อย การตรึงค่าแก๊สให้แก่หาบเร่แผงลอยและกลุ่มผู้ประกอบการขนส่ง รวมถึงโครงการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ ในอนาคตด้วย