ไม่พบผลการค้นหา
'วราวุธ' รอ 'เพื่อไทย' ติดต่อร่วมรัฐบาล ชี้ไม่มีเรื่อง 112 ถือเป็นสัญญาณที่ดี-​ให้เกียรติ 'เพื่อไทย' ตัดสินใจเรื่อง 'เศรษฐา' เชื่อถ้าเลือกแล้วก็คงมีคุณสมบัติเพียบพร้อม

วันที่ 8 ส.ค. 2566 วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี​ว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึง ท่าทีการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ว่า ร่วมหรือไม่ร่วม ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกันในระดับหนึ่ง ว่าก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปก็ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งได้มีการพูดคุยกันเพียงเท่านี้ แต่จะพบกันที่ไหน เมื่อไร อยู่ที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งหากส่งสัญญาณมาเมื่อไหร่พรรคชาติพัฒนาเราก็พร้อมไปพูดคุย 

เมื่อถามว่า การพูดคุยจะต้องมีการพูดถึงการแบ่งกระทรวงเลยหรือไม่ วราวุธ​ ระบุว่า จากที่ได้พูดคุยกันครั้งแรก เรายังคงยึดมั่นในเงื่อนไขที่พูดคุยกันอยู่ เช่น เรื่องของการแก้ไขมาตรา 112 ทัศนคติในการทำงาน เพื่อให้ทุกพรรคไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งหากเราได้รับการยืนยันก็เดี๋ยวมาว่ากัน 

เมื่อถามว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยชัดเจนแล้วว่าไม่แตะมาตรา 112 จะเอาอย่างไร วราวุธ กล่าวว่า นั่นคือเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นแนวทางเดียวกัน 

เมื่อถามว่า อยากจะได้กระทรวงเดิมเพื่อสานงานต่อหรือไม่ วราวุธ กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนา เราได้มา 10 เสียง ซึ่งก็ต้องพูดคุยกัน แต่เราจะไม่ไปเรียกร้อง เพราะหัวใจคือทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง และทำให้การทำงานหลังจากนี้รวมถึงภาคเศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนการต่อรองกระทรวงก็คงไปว่ากันทีหลัง 

เมื่อถามว่า โควต้ารัฐมนตรีจะต้องได้ 1 รัฐมนตรีว่าการและ 1 รัฐมนตรีช่วย ใช่หรือไม่ วราวุธ กล่าวว่า ต้องรอดูก่อนว่าเบ็ดเสร็จแล้ว สส.ในฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลจะมีเท่าไร จึงยังตอบตอนนี้ไม่ได้ 

เมื่อถามว่า ติดเงื่อนไขกรณี เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เคยแสดงความคิดเห็นให้แก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ รวมถึงคุณสมบัติส่วนตัวด้วย วราวุธ กล่าวว่า ต้องให้เกียรติพรรคเพื่อไทย ในการเสนอบุคคลมาเป็นแคนดิเดตนายก เพราะการจะเสนอใครขึ้นมานั้นก็น่าจะต้องพิจารณาคุณสมบัติที่เพียบพร้อมแล้ว ซึ่งทางเราก็จะให้เกียรติพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายตัดสินใจ 

เมื่อถามว่า จะมีจุดยืนอย่างไรที่พรรคเพื่อไทยจะยกร่าง สสร. วราวุธ กล่าววว่า แนวคิดนี้ ทางพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ได้พูดตั้งแต่หาเสียง ว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะตั้งแต่ปี 2538 ที่ในบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีการตั้งสสรขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะฉะนั้นแนวทางนี้ก็ตรงกันกับพรรคชาติไทยพัฒนา 

ส่วนหมวดใดจะต้องคงไว้หรือไม่ หัวใจสำคัญของพรรคชาติไทยพัฒนาคือหมวด 1 และหมวด 2 เพราะถือว่าเป็นหมวดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งจะไม่มีการแตะต้อง


'ประภัตร​' บอก​เมฆหมอกหนา​ สัญญาณ​ยังมาไม่ถึง​ 

ประภัตร โพธสุธน​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ ในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงสัญญาณการติดต่อเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย​ โดย ประภัตร​ ยกมือโบกไปมาในลักษณะดูสภาพอากาศ​ ว่า​ เมฆหมอกมันเยอะ​ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เหตุใดเมฆหมอกจึงเยอะ​ ประภัตร​ กล่าวย้ำคำเดิมว่า​ เมฆหมอกมันเยอะ​ สัญญาณยังมาไม่ถึง​ 

1216612.jpg

และเมื่อถามย้ำอีกว่า ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทกับทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี ​ยังไม่มีสัญญาณมาหรือ​ ประภัตร กล่าวว่า​ ตั้งเค้าอยู่​ 

เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าได้รับการติดต่อจาก ทักษิณ เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่​ ประภัตร​ ยกมือปัดตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องประชุมคณะรัฐมนตรีในทันที