ไม่พบผลการค้นหา
'สุทิน' รับเข็น 'พิธา' รอบนี้ เหนื่อยกว่ารอบแรก มีเรื่องต้องลุ้นผ่านด่านข้อบังคับ 41 ขนาดฝ่ายกฎหมายสภายังเสียงแตก ตีความวุ่น รับความคิด 'อดีต กกต.' เป็นแนวคิดที่ดี ขอเสียงพรรคจิ๋ว พลิกเป็นญัตติใหม่

ที่รัฐสภา วันนี (19 ก.ค.) สุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อให้มีการโหวตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ในวันนี้ ว่า พรรคเพื่อไทย มีมติให้ตนเป็นผู้เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยตนมองว่าเป็นสปิริตของพรรค และ ความภาคภูมิใจ แต่ที่ตนเป็นห่วงและต้องมาลุ้นกันก็คือเรื่องการตีความข้อบังคับการประชุมสภาข้อที่ 41 ซึ่งยังมีความคิดแบ่งกันออกเป็น 2 ฝ่าย ที่ฝั่งนึงบอกว่าไม่สามารถเสนอชื่อบุคคลเดิมได้อีก ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าไม่ขัดเพราะเป็นคนละหมวดกัน

ซึ่งเรื่องนี้คาดว่าประธานรัฐสภา จะรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะจบลงที่ประธานรัฐสภาวินิจฉัย หรือความเห็นของสมาชิก ซึ่งถ้าหากผ่านด่านนี้ไปได้นั้น ก็เข้าสู่ขั้นตอนการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าหากไม่ผ่านก็ต้องปิดประชุม และเลื่อนไปโหวตในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากหลังจากนี้จะยังจับมือกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล และยังเป็นการตัดสินใจร่วมกันอยู่ ยังยืนยันว่ายังไม่มีแนวความคิดที่จะดึงพรรคการเมืองอื่นเข้ามา ขอให้ผ่านการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 นี้ไปก่อนและ 8 พรรคร่วมค่อยมาพูดคุยกัน

ส่วนกรณีที่สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุ ว่า ให้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ไปทาบทามพรรคการเมือง 1 ให้รวมเป็น 9 พรรค และเสนอให้พิธาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อฝ่าด่าน ข้องบังคับการประชุมสภา ม.41 ให้เกิดเป็นญัตติใหม่ สุทิน มองว่า เป็นแนวคิดที่ดี แล้วฝ่ายที่จะผลักดันตามข้อบังคับข้อ ที่ 41 ก็ควรจะทำ การขอเสียงหรือการประสานงานกันเป็นเรื่องปกติไม่มีอะไรเสียหายเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราก็อยากให้ผ่าน และพรรคเพื่อไทยยืนยัน เราก็อยากให้มีการโหวตนายกรัฐมนตรีภายในวันนี้ 

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะมีการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้าชิงในวันนี้เลยหรือไม่ สุทิน ตอบว่า ไม่มี ในวันนี้ยังคงยืนยันที่จะสนับสนุนพิธา เป็นนายกฯ ต่อไป

เมื่อถามว่า ครั้งนี้ จะเหนื่อยกว่าครั้งแรก ที่โหวตนายกฯ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.หรือไม่ สุทิน ตอบทันทีว่า ก็อาจจะเหนื่อยกว่า เหนื่อยที่ต้องมาสู้กันในเรื่องของความเห็นข้อบังคับที่ 41 เป็นความเห็นที่ก้ำกึ่งเป็นความเห็นที่มีความก้ำกึ่ง เพราะขนาดทีมกฎหมายของสภาก็ยังมีความเห็นออกเป็น 2 ทาง 

ส่วนมองว่า ส.ส. และ ส.ว. จะมีความเห็นโหวตข้อบังคับที่ 41 ออกมาในทิศทางใดนั้น ตนมองว่าทุกคนมีอิสระทางความคิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องลุ้น