ไม่พบผลการค้นหา
'ประยุทธ์' แถลงการณ์ 'กลยุทธ์ 3 แกนสร้างอนาคต' หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มใกล้เคียงภาวะปกติ ร่ายกลยุทธ์แก้ปัญหาปากท้อง ยก 3 แกนหลัก 'โครงสร้างพื้นฐาน-ภาคอุตสาหกรรม-ภาคธนาคาร' ช่วยสร้างอนาคตยกประเทศสู่อนาคตที่ดี หยอดหัวใจตัวเองอยู่กับประชาชน ย้ำขอช่วยขับเคลื่อนรัฐบาลใหม่ ทำอีก 2 ปีได้โครงสร้างสร้างพื้นฐานดีที่สุด

วันที่ 8 ก.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี “กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต” ผ่านเฟซบุ๊ก 'ไทยคู่ฟ้า' ผ่านคลิปวิดีโอความยาว 17.46 นาที โดย พล.อ.ประยุทธ์ แถลงการณ์โดยอยู่ในท่าทางที่ผ่อนคลายกว่าทุกครั้ง ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากพูดกับทุกคนเกี่ยวกับอนาคตของบ้านเราและการเดินหน้าต่อไปของประเทศไทย ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงปกติแล้ว แต่ข้างหน้าของเรายังมีอีกหนึ่งภัยร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่ารอเราอยู่ นั่นคือเราจะอยู่รอดอย่างไรกับการโหมกระหน่ำของพายุการขึ้นราคาทุกอย่าง ซึ่งสงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นส่วนสำคัญยิ่งที่กระตุ้นให้ข้าวของแพง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน อาหาร ค่าขนส่ง จนถึงขั้นทำให้บางประเทศในภูมิภาคเข้าใกล้การล่มสลายทางเศรษฐกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนจึงขอใช้เวลาเพื่อเล่าเรื่องสำคัญคือกลยุทธ์ภาพใหญ่ของตน ที่จะมาแก้ปัญหาปากท้องและความยากจนให้หมดไปเสียทีที่ผ่านมา หลายรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงระยะสั้นๆ ได้ดำเนินนโยบายระยะสั้นแก้ปัญหาความยากจนเฉพาะหน้าหรือมีโครงการลดแลกแจกแถมต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า บางโครงการเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกฤติ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แต่โครงการแบบนั้น ไม่ใช่วิธีที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน และแน่นอนว่าวิธีการเหล่านั้น ไม่ทำให้ใครรวยขึ้นมาได้

เพราะฉะนั้น ตนจึงตั้งใจเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น ที่จะทำเรื่องใหญ่ๆ ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อช่วยทุกคนให้สามารถสร้างรายได้มากขึ้น อย่างยั่งยืน ผมขอให้ทุกท่านเดินหน้าไปกับผม ในช่วงเวลาที่ภารกิจระยะยาวเพื่อทุกคน ที่ผมได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ประยุทธ์ -2D2F-4431-AC66-B62B7A2BC32C.jpeg

ฉายภาพ 3 แกนหลักยกระดับประเทศ ดันโครงสร้างพื้นฐาน-อุตสาหกรรม-ภาคธนาคาร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้กำลังขับเคลื่อน กลยุทธ์ภาพใหญ่ที่มี 3 แกนหลัก ที่จะมายกระดับความรุ่งเรืองของประเทศ เป็น 3 แกนหลักที่กำลังจะเสร็จและกำลังจะพร้อมที่จะช่วยเราทุกคนได้ในอนาคตอันใกล้

(1) แกนที่ 1 คือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ที่ใหญ่ที่สุดและบูรณาการมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ประเทศไทย โครงการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน หรือท่าเรือ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความรุ่งเรืองมั่งคั่งของทุกคนโครงการที่ต้องใช้เวลาก่อสร้างยาวนานหลายปี และตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยเมื่อโครงการต่างๆ เกิดขึ้นจริง จะเชื่อมต่อกันเหมือนต่อจิ๊กซอว์ภาพใหญ่ได้สำเร็จ

(2) แกนที่ 2 คือแกนที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงต่างๆ เป็นภาคอุตสาหกรรมที่หล่อเลี้ยงเชื่อมต่อไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดเล็กอีกมากมาย ตลอดจนดึงเงินมหาศาลให้ไหลเข้าประเทศไทย ผ่านการส่งออกต่างๆ เป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งรุ่งเรืองของไทย อย่างไรก็ตามวันนี้ เราเดินมาได้ไกลแล้ว ด้วยการทำงานอย่างรวดเร็ว และบูรณาการหลายหน่วยงาน จนผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกหลายราย แสดงเจตนารมณ์ว่าจะเดินหน้าตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราจะต้องทำ ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพื่อให้ได้ข้อสรุปกับผู้ผลิตยานยนต์ต่างๆ เหล่านั้น และจะต้องทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า มีราคาที่ถูกลง สำหรับคนไทยทุกคน ซึ่งจะให้รายละเอียดเพิ่มเติม และความคืบหน้า เกี่ยวกับกลยุทธ์แกนที่ 2 นี้ ประมาณช่วงเดือนหน้าครับ

(3) แกนที่ 3 คือ เรื่องเกี่ยวกับภาคการธนาคารของเรา และวิธีการทำงานของธนาคาร ตอนนี้ ประเทศไทยมีประชาชนมากกว่า 30 ล้านคนที่ไม่สามารถกู้เงินได้ และบางคนอาจจะไม่เคยมีบัญชีธนาคารเลยด้วยซ้ำ เราต้องกลับมาถามตัวเองว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ในเมื่อธนาคารและเงินกู้จากธนาคาร คือหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่ประชาชนสามารถใช้ในการสร้างอนาคตและความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ รวมทั้งช่วยให้ประชาชนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่มีปัญหาไปได้ โดยที่ธุรกิจไม่ล้ม หรือไม่ต้องหมดเนื้อหมดตัว ในขณะเดียวกัน ถ้าเราสามารถหาหนทาง ที่จะทำให้ประชาชน 30 ล้านคนเหล่านั้น เข้าถึงระบบธนาคาร สามารถขอเงินกู้ และใช้บริการต่างๆ จากธนาคารได้ เราก็จะสามารถกระตุ้นความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับประเทศเราได้ด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรามีคนเก่งๆ หลายล้านคนที่ทำมาหากินเอง หรือมีธุรกิจเป็นของตัวเอง รวมไปถึง มอเตอร์ไซค์รับจ้างและส่งของ และคนที่ทำงานอิสระในโลกของเศรษฐกิจแบบดิจิทัล นอกจากนั้นเรายังมีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่ฉลาด และมีหัวการค้า มากมายในประเทศไทย คนที่พร้อมที่จะสร้างธุรกิจใหม่ๆ ธุรกิจดีๆ แห่งอนาคต นับพันๆ ธุรกิจ สร้างความร่ำรวยให้กับตัวพวกเขาเอง และในขณะเดียวกัน ก็สร้างความรุ่งเรืองให้กับประเทศด้วย ดังนั้นต้องหาทางที่จะทำให้เงินทุนที่จำเป็น ไปถึงมือเจ้าของกิจการเล็กๆ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่สมควรจะได้รับมัน ธนาคารต้องหาทางที่จะเดินหน้าให้มากไปกว่าวิธีการหรือระบบแบบเดิมๆ ที่มักจะปล่อยเงินกู้ให้แค่คนรวย ธุรกิจใหญ่ๆ หรือคนที่มีเอกสารทางธุรกิจที่พร้อมเท่านั้น

“ถึงเวลาแล้วครับธนาคารจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าที่เป็นคนตัวเล็กๆ และทำมาค้าขายเลี้ยงตัวเอง ให้มากยิ่งขึ้น คนกลุ่มนี้จะเป็นพลังที่สำคัญมากต่อความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเราควรต้องส่งเสริมครับ เพื่อระดมพลังสร้างสรรค์มาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ ความร่ำรวยของคนทำมาค้าขายเล็กๆ เจ้าของร้านค้า หรือคนรุ่นใหม่ อยู่ที่สมองและสองมือของเค้า อยู่ในหัวใจที่มุ่งมั่นที่จะทำงานหนัก เทคโนโลยีสามารถช่วยให้ธนาคารต่างๆ ประเมินความสามารถในการคืนเงินกู้ ของผู้กู้ ที่เป็นคนตัวเล็กๆ ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำการศึกษาแล้ว เกี่ยวกับการผลักดันให้ภาคการเงินของประเทศไทยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และทำให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินต่างๆ ได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งตนอยากจะขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ อีกทั้งด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกที่แย่ลงทุกวัน จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน บอกเราว่า เราต้องเดินหน้าให้เร็วยิ่งขึ้น

"ผมต้องการเห็นธนาคารต่างๆ ในประเทศไทย และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งเครื่อง กระบวนการต่างๆ เหล่านี้ เพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงให้ได้ และเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนทุกคน"

“ผมรู้ว่า มีหลายๆ ธนาคารกำลังมองและทำเรื่องที่ผมกล่าวอยู่นี้ ผมขอให้ธนาคารเหล่านั้น เดินหน้าให้เร็วขึ้น และขอให้เป็นพลังที่สำคัญมากยิ่งขึ้น สำหรับสิ่งดีๆ ของประเทศ และช่วยยกระดับประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดี ที่เราสมควรจะมี ผมเชื่อลึกๆ ว่า คนไทยทุกคน ในทุกมุมของสังคม มีสิ่งเดียวที่เค้าต้องการขอจากรัฐบาล คือ ขอให้ช่วยสร้างแพลตฟอร์มที่ประชาชนจะสามารถช่วยเหลือตัวเค้าเองได้ และขอให้รัฐทำสิ่งต่างๆ ที่จะช่วยประชาชนทุกคนให้ได้รับโอกาสที่เป็นธรรม ที่พวกเค้าจะสามารถสร้างชีวิตของตัวเองให้มั่งคั่งได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ยันตัวเองพูดตลก แต่บริสุทธิ์ใจ หยอดหัวใจอยู่กับประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ 3 แกนสำคัญที่ตนพูดถึง จะเปิดโอกาสที่มากขึ้นในการสร้างความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับประชาชนนับล้านๆ และเราจะสามารถสร้างความมั่งคั่งและรุ่งเรืองได้ ในแบบที่กระจายไปทีเดียว ทั่วไปทั้งหมด และนั่นคือหนทางเดียว ที่เราสามารถเอาชนะปัญหาปากท้องการหาเลี้ยงตัวเอง ที่มาบั่นทอนเราอยู่เรื่อยๆ เสมอๆ ได้ ถ้าทุกอย่างเหล่านี้เชื่อมถึงกัน ความมั่งคั่งรุ่งเรืองก็จะเกิดขึ้น ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสอดคล้องกับยุคสมัยใหม่และอนาคต ภารกิจของตน คือ ทำให้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ ตอนนี้สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกือบที่จะเสร็จแล้ว เราเดินมาได้ไกลแล้ว ตามกลยุทธ์ และตอนนี้ ใกล้ถึงเวลาที่เราจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้แล้ว

“ผมขอบคุณทุกท่าน ที่ใจเย็นกับผม ให้ผมได้เอาแผนโครงการที่ยิ่งใหญ่ ผลักดันมาสู่การปฏิบัติจริง ผมไม่ใช่คนที่แสดงออกหรือนำเสนออะไรได้เก่งนัก แต่ผมรู้ว่า ผมจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เรื่องใหญ่ๆ เกิดขึ้นจริงได้ บางครั้งผมอาจจะพูดอะไรที่ฟังดูตลก แต่ขอให้ทุกท่านรู้ว่า ผมบริสุทธิ์ใจ และหัวใจของผมอยู่กับประชาชนทุกคน และอยู่กับประเทศไทยครับ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมได้เชิญชวนทุกท่านให้ร่วมมือกัน ต่อสู้กับภัยร้ายสำคัญของประเทศ นั่นคือโควิด-19 ซึ่งทุกคนได้ตอบรับและร่วมมือกันอย่างดี จนเราประสบความสำเร็จได้ ไม่เพียงแค่ต่อสู้กับโควิดได้สำเร็จ แต่ประเทศไทยได้โชว์ให้ทั้งโลกเห็นว่า เราเป็นประเทศที่จัดการกับโควิดได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ลั่นขออยู่ต่อจะทำโครงสร้างพื้นฐานที่ดีในเวลาอีก 2 ปีเชื่อมไทยไปข้างหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขอเชิญชวนทุกคน ให้มาร่วมมือกันด้วยสปิริตแบบเดิมนั้นอีกครั้ง ร่วมแรงร่วมใจกันทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ช่วยกันต่อสู้กับโรคระบาดความยากจน และช่วยกันสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแรง ประชาชนทุกคนทุ่มเทความรู้ ความมุ่งมั่น การทำงานหนัก พลังสร้างสรรค์ จิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นคนไทย

"ส่วนผมจะขับเคลื่อนรัฐบาล ให้ทำโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดให้สำเร็จ ช่วยทำภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้แข็งแรง และช่วยภาคการธนาคารให้ทำงานอย่างสอดคล้องและตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ ผมเชื่อว่าเราทำได้ครับ และเราจะได้เห็นการผลิดอกออกผล ในเวลาไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า ลงมือครับ เชื่อมไทยเดินหน้า"