ไม่พบผลการค้นหา
‘เพื่อไทย’ แถลงขั้นตอนสรรหาผู้สมัคร ส.ส. หลักสี่ ยืนยัน ‘สุรชาติ’ เหมาะสม แต่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ชมสื่อมอบฉายาอัดรัฐบาล ปลื้ม ‘ชลน่าน’ เป็นดาวสภาสมัยสอง แจงกรณีร่วมโต๊ะ ‘ธรรมนัส’ ไม่มีอะไรในกอไผ่

วันที่ 27 ธ.ค. 2564 ที่พรรคเพื่อไทย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. เขตลาดกระบัง และโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงขั้นตอนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตหลักสี่ กทม. อันสืบเนื่องจากศาสรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของ สิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2564 จึงต้องมีการจัดการเลือกตั้งส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 (เขตหลักสี่และเขตจตุจักร) ขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างไป ตามที่กฎหมายกำหนด

คณะกรรมการสรรหาของพรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยได้ออกประกาศเรื่อง วัน เวลา สถานที่ ในการสรรหา กำหนดให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 - 28 ธ.ค. 2564 ยังเหลือเวลาให้ท่านที่มีความประสงค์แสดงเจตจำนงลงรับสมัครเลือกตั้งในวันนี้และวันพรุ่งนี้ ณ สำนักกฎหมาย ที่ทำการใหญ่ พรรคเพื่อไทย และขั้นต่อไปจะนำชื่อของผู้แสดงเจตจำนงแจ้งให้ตัวแทนพรรคผู้ประจำจังหวัด กทม. เขต 9 ทำการปิดประกาศ แล้วจึงเชิญสมาชิกผู้แสดงเจตจำนงหรือสมาชิกอื่นๆ เข้ารับการสรรหาตามชื่อ

แม้ว่า อดีต ส.ส.สุรชาติ เทียนทอง จะลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง และพรรคเพื่อไทยก็เห็นถึงความเหมาะสม เพราะเป็นผู้ไม่เคยทิ้งพื้นที่ ในครั้งที่ได้ตำแหน่ง ส.ส. ครั้งแรกเมื่อปี 2554 ก็ทำงานด้วยความตั้งใจ ก่อนถูกยึดอำนาจไปในปี 2557 ก็ยังคงดำเนินการทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อให้กระบวนการขั้นตอนเป็นไปอย่างถูกต้องตาม พ.ร.ก.การเลือกตั้ง และข้อบังคับของพรรคการเมือง จึงจำเป็นต้องดำเนินการในส่วนนี้

หลังครบกำหนดวันสมัครแล้ว เมื่อมีผู้แสดงเจตจำนงเข้ารับการสรรหา คณะกรรมการสรรหาจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ก่อนส่งให้ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประทำ กทม. เขต 9 ให้ความเห็นอีกครั้ง อันถือเป็นส่วนสำคัญที่กฎหมายกำหนดไว้ เป็นการให้ความเห็นโดยไม่ต้องทำการเลือกตั้งเบื้องต้น ตาม พ.ร.ก.พรรคการเมือง มาตรา 144 ที่แก้ไขโดยคำสั่งของ คสช. ฉบับที่ 13/2561 ที่ระบุว่าในการเลือกตั้งครั้งแรกนั้น ยังไม่ต้องทำ Primary Vote 

จากนั้นเมื่อตัวแทนพรรคการเมืองประจำ กทม. เขต 9 ได้ให้ความเห็นแล้ว จะส่งรายชื่อมายังคณะกรรมการสรรหาอีกครั้ง ก่อนจะส่งให้คณะกรรมการบริหารได้พิจารณาเป็นขั้นสุดท้าย และเมื่อมีมติเห็นชอบให้ผู้ใดได้เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ก็จะนำไปสู่การแถลงข่าวต่อไป

ทางกรรมการสรรหามีกำหนดประชุมครั้งต่อไปคือ 29 ธ.ค. นี้ และจะเสนอชื่อสู่กรรมการบริหารพรรคในวันเดียวกัน หลังจากนั้นก็จะสามารถลงพื้นที่หาเสียงได้อย่างสมบูรณ์ โดยถือเป็นของขวัญให้กับประชนชาวไทย โดยเฉพาะพี่น้องในเขตหลักสี่ที่จะได้ใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้ง

นอกจากนี้ โฆษกพรรคเพื่อไทยยังได้ฝากถึงรัฐบาลให้เพิ่มความเข้มงวดด้านจุดตรวจในบริเวณต่างๆ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19-สายพันธ์โอไมครอน และให้ประชาชนได้เฉลิมฉลองปีใหม่ด้วยความสบายใจ อย่าทิ้งปัญหาให้ประชาชนรับผิดชอบ รวมทั้งตั้งคำถามกับมาตรการมอบของขวัญปีใหม่ของรัฐบาลว่ามีลักษณะแบบจับฉลากสอยดาว ใครโชคดีก็ได้ไป สะท้อนว่าเป็นผลมาจากการใช้งบประมาณของรัฐบาลอย่างไม่คำนึงถึงผลในอนาคตหรือไม่ หรือเพราะรัฐบาลถังแตกแล้ว ไม่สามารถนำงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนได้อีก


ชื่นชมสื่อตั้งฉายา รบ.

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ธีรรัตน์ ถึงความเห็นเกี่ยวกับฉายาของรัฐบาลประจำปี 2564 ที่สื่อมวลชนร่วมกันมอบให้ โดยได้คำตอบว่าถือเป็นสีสันช่วงส่งท้ายปี ที่มีความชัดเจน เห็นภาพ เช่น ฉายา “ว้ากซีน” ของ อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่สะท้อนให้เห็นการจัดหาวัคซีนที่ขาดแคลน นำมาสู่ความสูญเสียและเศร้าโศก จึงเป็นฉายาที่เห็นด้วยกับผู้สื่อข่าว

เช่นเดียวกับฉายารัฐบาล “ยื้อยุทธ์” ก็ขอชื่นชมที่สรรหาคำได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากจะเห็นได้ว่าในหลายวาระ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เสี่ยงได้รับความไม่ไว้วางใจบ่อยครั้ง แต่ก็มีการยื้อตำแหน่งไว้ได้สำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากพรรคร่วมรัฐบาล

สำหรับตำแหน่งดาวสภา ที่มอบให้กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น ต้องขอแสดงความยินดีต่อ นพ.ชลน่าน และขอขอบคุณผู้สื่อข่าวที่ให้ความสนใจ โดย นพ.ชลน่าน เคยได้รับฉายาดาวสภามาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2552 และด้วยการให้ความสำคัญกับการประชุมสภาทุกนัด รวมทั้งการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคอย่างดีทั้งในและนอกสภา การได้ฉายานี้ก็ถือเป็นของขวัญจากผู้สื่อข่าว เป็นเรื่องน่ายินดีและภาคภูมิใจแก่พรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีมีการเผยแพร่คลิป ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย ธีรรัตน์ ระบุว่าตนได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ว่าเป็นการเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวให้สื่อมวลชนในโอกาสส่งท้ายปีเก่าที่รัฐสภา โดย นพ.ชลน่าน ได้นั่งรับประทานอาหารอยู่กับกลุ่มสื่อมวลชนอยู่แล้ว ก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัสจะเข้ามา สื่อมวลชนจึงได้เชิญให้มาร่วมโต๊ะกัน จึงเป็นการพบกันโดยบังเอิญไม่ได้มีนัยใดแอบแฝง และได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ บรรยากาศโดยรวมมีความเรียบร้อยดี