ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ในช่วงบ่าย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ครั้งนี้การให้ความเห็นของ สมาชิกรัฐสภานั้นยึดถือประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ทั้งในส่วนของนโยบายและคนที่จะมาขับเคลื่อนนโยบายให้เป็นรูปธรรม คือรัฐบาลโดยนโยบายของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลง มีการท้วงติงถึงนโยบายเกี่ยวกับมาตรการเตรียมการป้องกันภัยแล้ง ซึ่งไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมโดยประเด็นดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ จึงอยากให้ออกมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าว 

รวมถึงมองว่านโยบายบางเรื่องเป็นนโยบายที่ไม่มีความชัดเจน ไม่มีแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และไม่มีเป้าหมายของการจัดทำนโยบาย จึงอยากให้รัฐบาลนำแผนในการปฏิบัติตามนโยบายต่างๆมาเพื่อชี้แจงให้มีความชัดเจน รวมทั้งความไม่เหมาะสมของ รมว.คลังกรณีคดีปล่อยเงินกู้ธนาคารกรุงไทยให้บริษัทกฤษดามหานคร พร้อมกันนี้ยังเปรียบเทียบ ว่า รัฐบาลตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เหมือนรถยนต์ที่ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องยนต์ หากต้องการขับเคลื่อนไปถึงเป้าหมายต้องเปลี่ยนคนขับ

ด้าน นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ชี้แจงกรณีการปล่อยเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมืองมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2558 มีผู้ต้องโทษ 25 ราย แต่เป็นที่น่าเสียดาย น่าเศร้าใจที่มีกระบวนการของบุคคลที่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงให้ผู้คนในสังคมเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด โดยมีความพยายามหลายครั้งที่จะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาบิดเบือนให้เกิดความเสียหายในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความไม่ชัดเจนเคลือบแคลงว่าตนมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรมว.กระทรวงการคลังหรือไม่ 

“อย่างไรก็ตามขอกราบเรียนว่าในฐานะนักการเมืองเป็นบุคคลสาธารณะยินดีที่จะให้มีการตรวจสอบ แต่ถ้าคนมันไม่ผิดมาแต่เดิม แล้ววันนี้จะมาหาเหตุบอกว่าผิดมันจะทำได้อย่างไร ผมขอชี้แจงตรงนี้เรื่องการกู้ทุจริตแบงค์กรุงไทยว่ามีการตรวจสอบ สอบสวน ไต่สวนมาแล้วในระดับหนึ่งซึ่งมีรายละเอียดพอสมควร แต่เนื่องจากเข้าใจว่าคงมีการอภิปรายในประเด็นนี้ต่อไปอีก จึงขออนุญาตประธานเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้เวลาของสภา จึงขออธิบายรายละเอียดเรื่องนี้ในตอนต่อไป”นายอุตตม กล่าว