วันที่ 26 ก.ค. ที่อาคารรัฐสภา วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีตนเองเตรียมเดินเข้าร่วมการประชุมใหญ่สมัชชาอาเซียนครั้งที่ 44 ที่ประเทศอินโดนีเซียตั้งแต่วันที่ 5-11 ส.ค. 2566 นี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการนัดประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

โดย วันมูหะมัดนอร์ ยืนยันว่า การประชุมอาเซียนนั้น มีตนกับ สส.บางส่วนเดินทางไปร่วม แต่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร การประชุมวุฒิสภา คือการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ก็สามารถดำเนินต่อไปได้ตามกำหนดการเดิม

และเมื่อเช้านี้ ตนได้ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มต้นพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินใน วันที่ 3 ส.ค. ว่าจะรับคำร้องหรือไม่ และจะมีคำสั่งให้ชะลอการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ อย่างไร ซึ่งตนจะขอหารือกับคณะทำงานฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่ศาลไม่รับคำร้อง จะสามารถออกวาระและรีบประชุมในวันที่ 4 ส.ค. ได้เลยหรือไม่ หากจำเป็น และทำได้ ก็จะออกวาระในวันนี้ เพื่อให้ไม่ล่าช้าช่วงวันหยุดยาว

ประธานรัฐสภา ยังกล่าวว่า ทางรัฐสภาต้องพิจารณาภายในกรอบของรัฐธรรมนูญ ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลผูกพันทุกองค์กร ทั้งนี้ แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้อง และมีคำสั่งให้ชะลอการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ก็ยังสามารถเรียกประชุมรัฐาสภา เพื่อพิจารณาในวาระแก้ไขมาตรา 272 ที่พรรคก้าวไกลเสนอมาก่อนได้ ในวันที่ 10 ส.ค.

วันมูหะมัดนอร์ ยังยืนยันว่า การเดินทางกลับประเทศไทยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวข้อง และจะไม่ส่งผลกระทบกับการประชุมโหวตเลือกนายกฯ เช่นเดียวกับที่จะไม่ส่งผลต่อบทบาทของรัฐสภา แม้มีบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ารัฐสภาอาจใช้กลไกเสียงข้างมากพิจารณาแก้ไขกฎหมายให้ความเป็นธรรมกับ ทักษิณ ได้

"ท่านทักษิณ ก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง ก็เหมือนประชาชนทั่วไป แต่บทบาทของสภาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ก็ต้องทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับของสภาต่อไป เป็นคนละส่วนและไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย" วันมูหะมัดนอร์ กล่าว