'จาซินดา อาร์เดน' นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ระบุว่า ผู้ก่อเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ชเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา มีปืน 5 กระบอกพร้อมใบอนุญาตครอบครองปืน และรัฐบาลนิวซีแลนด์จะแก้ไขกฎหมายการครอบครองปืนให้เข้มงวดขึ้น และอาจแบนอาวุธปืนกึ่งออโตเมติก
ปัจจุบัน กฎหมายของนิวซีแลนด์กำหนดอายุของผู้ครอบครองปืนไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 16 ปี ส่วนคนที่จะครอบครองปืนกึ่งออโตเมติกแบบของทหารจะต้องอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และผู้ครอบครองปืนทั้งหมดจะต้องขอใบอนุญาตก่อน โดยจะมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและประวัติด้านสุขภาพ รวมถึงสุขภาพจิตและประวัติการใช้ความรุนแรงในครอบครัว แต่เมื่อได้รับใบอนุญาตครอบครองปืนแล้ว ก็สามารถซื้อปืนไปไม่จำกัด
'เบรนตัน ทาร์แรนต์' ชายชาวออสเตรลัยวัย 28 ปี ที่เป็นตัวการหลักในการก่อเหตุกราดยิงได้เดินทางไปขึ้นศาลในข้อหาฆาตกรรม หลังเหตุกราดยิงทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 49 ราย โดยศาลสั่งฝากขังและห้ามประกันตัว และจะขึ้นฟังการพิจารณาคดีอีกครั้ง ในวันที่ 5 เม.ย. แต่มีการคาดการณ์เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมอีก
อาร์เดนแถลงข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวอยู่ทั้ง 3 คน ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมใดๆ ส่วนปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้เป็นปืนที่ถูกดัดแปลง และรถของผู้ต้องสงสัยก็เต็มไปด้วยอาวุธ ซึ่งแสดงถึงเจตนาที่จะก่อเหตุต่อหลังกราดยิงมิสยิด 2 แห่งในไครสต์เชิร์ชแล้ว
นอกจากนี้ อาร์เดนยังกล่าวถึงความสำคัญในการส่งคืนร่างของผู้เสียชีวิตคืนให้ครอบครัวโดยเร็วที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ยังคงเคลื่อนย้ายศพออกจากมัสยิดอัลนูร์อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกับรัฐบาลจะจัดสรรเงินช่วยเหลือให้กับญาติที่ต้องพึ่งพารายได้จากผู้เสียชีวิต
ด้านนายกเทศมนตรีไครสต์เชิร์ชแสดงความรู้สึก "ขยะแขยง" กับการก่อการร้ายครั้งนี้ พร้อมให้กำลังใจผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยกล่าวว่า "พวกเราต้อนรับคนใหม่ๆ เป็นเพื่อน เป็นเพื่อนบ้าน เราต้องการมาร่วมกันสนับสนุนพวกเขา" และจะมีการลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีิวิตไปจนกว่าจะแจ้งอีกครั้ง ส่วนการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ไครสต์เชิร์ชเป็นไปอย่างแน่นหนา เช่นเดียวกันการรักษาความปลอดภัยมัสยิดทุกแห่งทั่วประเทศนิวซีแลนด์
ที่มา : BBC, NZ Herald, The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :