พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีที่จะมีการปรับเปลี่ยนให้กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว และเมื่อส่งแล้วก็เป็นเรื่องของตน เมื่อถามว่าหน้าตาของรัฐมนตรีใหม่จะออกมาดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องดีสิ จะไม่ดีได้ยังไง เพราะจะต้องเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ
เมื่อถามข่าวที่ระบุว่า จะให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ตนไม่รู้ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี ที่เป็นคนจัดว่าใครจะอยู่กระทรวงไหน เพราะตนส่งแต่รายชื่อให้พิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสม หน้าที่ตนคือส่งคนที่มีความรู้ความสามารถไปเท่านั้น ทุกอย่างเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีคนเดียว ซึ่งไม่ได้มาปรึกษาตน เป็นความรับผิดชอบของใครของมัน และที่ผ่านมาก็ไม่ได้ปรึกษาว่าตนจะส่งใคร”
เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลได้หารือกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อขอสลับเก้ารัฐมนตรีช่วยหรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่มี พร้อมอมยิ้ม ส่วนพรรคพลังประชารัฐก็ได้เสนอตามโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรี เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าชื่อที่พรรคเสนอไป ตรงตามที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า ผมส่งก็เป็นเรื่องที่ผมรู้ ไม่ใช่เรื่องที่คุณรู้ ข่าวที่ออกมาผมไม่รู้ จะไปรู้ได้อย่างไร”
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีที่ นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งย้ายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับไปรับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การถูกย้ายกลับไปสตช.ก็เป็นเรื่องของเจ้าตัว ที่ผ่านมาเคยทำงานด้วยกันมาก่อนก็รู้จักกัน ก็แล้วแต่ เมื่อถามว่าถือเป็นการคืนความเป็นธรรมให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า เป็นเรื่องระหว่างพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กับนายกรัฐมนตรี ดังนั้นตนไม่รู้ส่วนรายละเอียดนั้น วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว
พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ขับเคลื่อนกลไกการเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ 64 ซึ่งจะมีวันหยุดยาว โดย เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดควบคู่กับการสร้างการรับรู้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด "สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติการเข้มข้นในช่วง7 วันแห่งความปลอดภัย ระหว่างวันที่ 10 – 16 เม.ย. 2564 โดยยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง(Area Approach) ตาม 5 มาตรการ ดังนี้ ด้านการบริหารจัดการ ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อมด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และด้านการช่วยเหลือหลังอุบัติเหตุซึ่งมีเป้าหมายในการลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 5% เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัยและลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 ให้เหลือน้อยที่สุด ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการป้องกัน covid 19
พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับให้ถอดบทเรียน และกำหนดแผนการดำเนินการลดอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละปีให้ชัดเจนและมีความต่อเนื่อง เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนผ่านกลไกของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทุกระดับโดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการสร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างจริงจังและต่อเนื่องรวมถึงส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั้งนี้ เพื่อสร้างประเทศไทยให้มีการสัญจรปลอดภัยตามมาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน