ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงมติ 'เพื่อไทย' ไม่ส่งแคนดิเดต 3 คนชิงนายกฯ ย้ำมติ 7 พรรคต้านสืบทอดอำนาจดัน 'ธนาธร' ชิงนายกฯ เผยที่ประชุม ส.ส.ความเห็นแตกแต่ต้องกล้ำกลืน รักษาสัญญาไม่รับตำแหน่งทางการเมือง หวังอนาคตดึงแนวร่วมมาต้านสืบทอดอำนาจ คสช. ด้าน 'ชูศักดิ์' รับ 246 เสียงแพ้โหวตนายกฯ ให้ 7 พรรคเดินหน้าสู้ต่อ

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงผลประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อประชุมร่วมกันของรัฐสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า พรรคเพื่อไทยได้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยตั้งเป้าหมาย 3 ประการ 1. จะไม่สนับสนุนให้มีการสืบทอดอำนาจ ไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สามารถทำหน้าที่ต่อ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาไม่สามารถนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากปัญหาที่ประชาชนประสบอยู่ 2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำคัญ การให้ ส.ว.มาตัดสินใจเรื่องนี้ไม่สามารถสะท้อนเจตจำนงของประชาชนที่เลือกผู้แทนมาเป็นรัฐบาล 3. กติกาที่ออกแบบมาเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งทำให้เกิดปัญหาตามมา 

นายภูมิธรรม ระบุว่า 7 พรรคเหลือแคนดิเดตนายกฯ เพียง 2 พรรค โดยพรรคเพื่อไทยมี 3 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และพรรคอนาคตใหม่ คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมติ 7 พรรคการเมืองเห็นด้วยจะสนับสนุนลงมติทิศทางเดียวกัน โดยพรรคร่วมให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งได้ปรึกษาหารือกับ ส.ส. แม้จะเข้าใจดีว่าประชาชนหลายล้านคนใน 136 เขตเลือกตั้งได้ตัดสินใจเลือกอยากให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ด้วยกติกาที่เป็นอยู่ไม่สามารถถึงเป้าหมายได้ เมื่อรู้กฎกติกาที่ค้างอยู่ทำให้ประเทศไม่สามารถหลุดพ้นกรอบกติกาได้ พรรคจึงจำเป็นต้องรักษาความร่วมมือให้หลุดพ้นจากปัญหาของประเทศ 

"โดยพรรคเพื่อไทยมีมติกับ ส.ส.ว่า วันที่ 5 มิ.ย. พรรคเพื่อไทยจะไม่เสนอชื่อนายกฯ เป็นคู่แข่งในรัฐสภา เราจะไม่เสนอตัวบุคลากรของเราในรัฐสภา เพราะรู้ว่ากฎเกณฑ์กติกายังเป็นปัญหา เรายังสนับสนุน 7 พรรค เปิดโอกาสให้พรรคอนาคตใหม่ได้เสนอคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นคู่ต่อสู้กับคุณประยุทธ์ เราจะรักษาสัญญาไม่เป็นเงื่อนไข ไม่รับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น เพื่อทำให้แนวร่วมของการร่วมมืออาจจะต้องมากกว่า 7 พรรคการเมืองสามารถหาทางคลี่คลายกฎกติกา รัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อประเทศ" นายภูมิธรรม ระบุ

ภูมิธรรม พรรคเพื่อไทย เพื่อไทย 0190421_11.jpg

นายภูมิธรรม ระบุว่า ปฏิเสธ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ปฏิเสธการสืบทอดอำนาจของกลุ่มอำนาจปัจจุบันที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตามมติของ 7 พรรค

ส่วนกรณีที่แคนดิดเดต 3 คนของพรรคมีความพร้อมเป็นนายกฯนั้น นายภูมิธรรมระบุว่า พรรคทราบดีว่ากฎกติกาหลังผลเลือกตั้งเสียงเราอันดับ 1 แต่ไม่มากพอจะฝ่ากติกาที่วิกฤตได้ การร่วมมือกันทุกพรรคการเมือง การทำงานการเมืองร่วมกันเป็นหัวใจสำคัญ พรรคเพื่อไทยจะไม่เป็นเงื่อนไข รับตำแหน่ง ต่อสู้ไม่ให้กลุ่มอำนาจเดิม ขณะนี้เราจะจับมือ 246 เสียง 7 พรรคการเมือง ดึงความร่วมมือทุกพรรคในอนาคต โดยยืนยันว่า 3 รายชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยไม่ได้เกิดจาก 3 รายชื่อมีอุปสรรค เพียงแต่ต้องการดึงแนวร่วมประชาธิปไตยให้กว้างขวาง เพียงเพื่อฝ่ากติกาการสืบทอดอำนาจไปให้ได้

"คิดว่าชาวบ้านจะเข้าใจ ชาวบ้านอยากเปลี่ยนแปลงสภาพปัจจุบันไม่อยากเห็นคุณประยุทธ์กลุ่มอำนาจเดิมทำหน้าทีอยู่ เพื่อที่พรรรคเพื่อไทยจะได้สร้างแนวร่วมกว้างชขวางให้บรรลุผล แม้วันนี้ยังไม่ประสบสำเร็จ การทีรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ ให้ ส.ว. มาเลือกนายกฯ แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงในสภาทำให้การทำงานในประเทศพิกลพิการ การร่างรับธรรมนูญเป็นพยายามสืบทอดอนาจไม่ได้แก้ปัญหาประชาชนและจะเป็นปัญหาต่อไป"

เมื่อถามถึงกรณี ส.ส.อีสานผลักดันคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม ระบุว่า ในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีความเห็นแตกเป็นหลายส่วน หลายส่วนกล้ำกลืนว่าแคนดิเดตของพรรคเพื่่อไทยมีคุณสมบัติ แต่เรายังหวงแหนความร่วมมือทุกพรรคการเมืองตอนนี้ได้ทำความเข้าใจก็เห็นพ้องทิศทางจะเดินตามมติพรรค ยืนยันว่า แคนดิเดตนายกฯ 3 คนถือเอามติพรรคเป็นสำคัญ การตัดสินใจของพรรคเหนือการตัดสินใจบุคคลสำคัญ การร่วมมือของพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไรให้หลุดพ้นการขัดขวางการแก้ปัญหาพี่น้องประชาชน ส่วนนายธนาธรไม่ได้มีคุณสมบัติที่เป็นปัญหาในแคนดิเดตนายกฯ โดย 7 พรรคมีผู้นำประสบการณ์ความรู้ความสามารถ จึงไม่มีปัญหาอุปสรรคในการบริหารประเทศได้

นายภูมิธรรม ระบุด้วยว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยยังเชื่อมั่นใน ส.ส.ว่าจะไม่มีงูเห่า หากใครยังเป็นงูเห่าก็เท่ากับว่าตัดอนาคตทางการเมือง เพราะได้เคยพูดสัญญากับประชาชนแล้วเปลี่ยนแปลงอย่างไรทุกอย่างจะปรากฎในสายตาของประชาชนอยู่แล้ว ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ควรแสดงวิสัยทัศน์ จากนี้ไปสังคมไทยที่จะมีวิกฤต จะนำพาสังคมไปอย่างไร ผู้ที่เสนอตัวเป็นนายกฯ ควรแสดงวิสัยทัศน์ อีกเรื่องก็เป็นเรื่องความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่นายกฯ เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาจะร่วมอภิปรายให้กระจ่างชัด

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ระบุว่า คิดว่าชาวบ้านก็ทราบดีไม่ว่าเสนอใครก็ไม่สามารถเป็นนายกฯได้ การรวม 246 เสียงใน 7 พรรคจึงเป็นแนวร่วมสำคัญเพื่อการต่อสู้ประชาธิปไตย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง