การเมือง
‘ธนาธร’ ปัดไม่พ่ายแพ้ แต่ถูกปล้นชัยชนะ มุ่งจับมือ 7 พรรคทำงานหนักให้มากกว่านี้
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น โดยนายธนาธรขอโทษประชาชนที่ทำภารกิจไม่สำเร็จ และหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. ไม่ได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่วันนี้เราไม่ได้พ่ายแพ้ แต่ชัยชนะของเรา ถูกปล้นไป ยอมรับว่าเมื่อวานนี้มีความหวังเล็กๆ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องบนหลักการของประชาธิปไตยและความเป็นธรรม ซึ่งหลังจากการแถลงข่าวเมื่อวานเย็น เห็นแน่ชัดว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทยในวันนี้จะเป็นอย่างไร
"อยากจะบอกกับประชาชนทุกคนว่าพวกเราพรรคการเมืองที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. ทั้ง 7 พรรค ได้สู้จนถึงที่สุด สู้จนวินาทีสุดท้าย และยกสุดท้าย ทำตามที่ได้หาเสียงไว้ว่าไม่ยอมแพ้ระหว่างทาง แต่ต่อสู้ภายใต้กรอบกติกา ที่ระบอบรัฐประหารได้วางเอาไว้ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงสมรภูมิในการเดินทางอันยาวไกลที่จะได้มาอันซึ่งประชาธิปไตยในประเทศไทย แต่พวกเรายังเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าท้ายที่สุดชัยชนะจะเป็นของประชาชนและเผด็จการไม่สามารถต้านทานสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดไป ประชาชนจะยังร่ำร้องหาเสรีภาพและความเป็นธรรม"
"การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันนี้แสดงให้เห็นว่าในการหยุดยั้งประชาธิปไตยและความไว้ใจของประชาชน พวกเขาได้ใช้ต้นทุนทางการเงิน สังคม และการเมือง มากน้อยเพียงใด และเมื่อเดินหน้าไปเรื่อยๆ ต้นทุนเหล่านี้ก็จะหดแห้งลงไปทุกวัน ดังนั้นประชาชนที่รักในประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทุกท่าน อย่าสิ้นหวัง เพราะนี่ไม่ใช่เวลาที่จะสิ้นหวัง แต่ความหวังยังอยู่กับเราฝ่ายประชาธิปไตย หลังจากนี้ จะเดินหน้าชักชวนประชาชนให้มาร่วมสร้างการเมืองสร้างสรรค์อย่างแข็งขันและประชาชนจะได้เห็นและเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรมที่แหลมคมในรอบนี้ "
นายธนาธร ขอบคุณแกนนำทั้ง 7 พรรคที่ส่งชื่อตนเป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รักประชาธิปไตยทั้ง 244 เสียงที่กล่าวขานชื่อธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรี และขอบคุณแรงสนับสนุน กำลังใจที่มีให้มาตลอดในการเดินสายเลือกตั้ง พร้อมย้ำว่านี่ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้น และจะชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ว่ากลุ่มที่รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย ยังทำงานหนักไม่พอ และทำให้เห็นว่าจากนี้จะทำงานเดินหน้าน้อยกว่านี้ไม่ได้ แต่จะต้องทำงานให้หนักขึ้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ชี้ให้เห็นแล้วว่า ถ้าเราไม่สู้ ลูกหลานของเรา เติบโตมาจะต้องอยู่ในสังคมที่ไม่เป็นธรรม ไม่มีสิทธิเสรีภาพ จึงเชิญให้ทุกคนมาร่วมกันส่งต่อสังคมให้คนรุ่นหลัง และอย่าเพิ่งหมดหวังสร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ สร้างประชาธิปไตยและเดินต่อไปด้วยกัน
ส่วนการทำงานหลังจากนี้ นายธนาธรท กล่าวว่า จะยังขับเคลื่อนร่วมกับ 7 พรรค และพรรคอนาคตใหม่จะเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือหากมีการเลือกตั้งใหม่ และมั่นใจว่าหากมีโอกาสได้เข้ามาเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนอีกครั้งพรรคอนาคตจใหม่จะทำให้ประชาชนไม่สิ้นหวังเหมือนวันนี้ และยืนยันว่าจะจับมือกับ 7 พรรคการเมืองอย่างแนบแน่น ส่วนประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากมีการยื่นข้อเสนอมา ซึ่งตรงกับเจตนารมณ์ของพรรคอนาคตใหม่ พรรคก็พร้อมที่จะเปิดรับโอกาสและข้อเสนอนั้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังไม่เชื่อว่า เหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้เป็นข้อกล่าวอ้างเท่านั้น แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศลาออกจาก ส.ส. และขอชื่นชมนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส. จังหวัดศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ที่งดออกเสียง ซึ่งเป็นการโหวตส่วนมติพรรคภูมิใจไทย ที่มีความกล้าหาญ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจ ลงมติงดออกเสียงในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า รู้สึกสะอึกนิดหน่อย และยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากความผิดพลาด และเป็นมติส่วนตัว เบื้องต้นนายสิริพงษ์ ได้มาขอโทษแล้ว ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ว่าอะไร และมองเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย และเชื่อว่าไม่กระทบกับโควตารัฐมนตรี และไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
เมื่อถามว่าเป็นเพราะนายสิริพงศ์เกรงว่าจะตอบคำถามประชาชนไม่ได้ว่าจะต้องลงมติเลือกใครคนใดคนหนึ่ง นายอนุทิน กล่าวว่า สงสัยจะเป็นอย่างนั้น และเชื่อว่านายสิริพงศ์อาจจะเครียด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
