ไม่พบผลการค้นหา
อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่น ป.ป.ช. เอาผิด กรมศุลกากร ดีเอสไอ และอัยการ ที่เกี่ยวข้องกับคดีเลี่ยงภาษีนำเข้ารถตู้โฟล์ก สวาเกน เนื่องจากมีการสั่งไม่ฟ้องบริษัทนำเข้า ทั้งที่เจตนาชัดเจน ชี้ทำให้รัฐเสียหาย สูญรายได้มหาศาล

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยข้อมูล การหลีกเลี่ยงเสียภาษีศุลกากร นำเข้ารถตู้ ยี่ห้อโฟล์ก สวาเกน ของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ด้วยวิธีการนำรถ เข้ามาในเขตปลอดอากร โดยมีคันละ 2 ที่นั่ง จากนั้นอาศัยช่องทาง ตามความตกลงว่าด้วยไทย-อาเซียน ในประกาศกรมศุลกากรที่ 72/2550 ซึ่งระบุไว้ว่า หากใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ ร้อยละ 40 ในการประกอบติดตั้ง ไม่ต้องเสียภาษี

นอกจากนี้ ยังมีการประกอบติดตั้ง เป็น 7 ที่นั่ง แล้วสำแดงการนำเข้า เป็นรถตู้ 11 ที่นั่ง เพื่อเลี่ยงเสียภาษีเช่นกัน เพราะหากแจ้งเป็นรถ 7 ที่นั่ง จะต้องเสียภาษีร้อยละ 80

พฤติกรรมเช่นนี้ ทำให้รัฐเสียหาย สูญรายได้มหาศาล ทั้งยังเอาเปรียบเอกชนรายอื่น เนื่องจากแม้มีการใช้วัสดุอุปกรณ์จากภายในประเทศ แต่ก็ขายรถในราคากว่า 3 ล้านบาท แพงกว่ารถยี่ห้ออื่นที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้ง ยังทราบมาว่า บริษัทนำเข้ารถ และบริษัทที่ขายอุปกรณ์ตกแต่ง อยู่ในเครือเดียวกัน

นายวิลาศ เปิดเผยด้วยว่า บริษัทผู้นำเข้า ยังมีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษีรถยนต์ ด้วยการจดเป็นป้ายทะเบียน พื้นขาว ตัวหนังสือสีน้ำเงิน เพื่อเสียภาษีแค่ 1,900 บาทต่อปี ทั้งที่ต้องเสียภาษีป้ายทะเบียน พื้นขาว ตัวหนังสือสีดำ 4,000 - 9,000 บาทต่อปี

สำหรับเรื่องนี้ มีผู้ร้องเรียนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เมื่อปี 2552 โดยมีการรับเป็นคดีพิเศษใน ปี 2553 หลังจากใช้เวลาสอบสวนนาน 8 ปี ได้ส่งคดีให้อัยการ แต่อัยการใช้เวลาไม่ถึงเดือน สั่งไม่ฟ้อง ขณะที่กรมศุลกากรอ้างว่า มีหน้าที่ตรวจสอบจากเอกสารเท่านั้น

นายวิลาศ จึงเตรียมนำข้อมูลทั้งหมด ยื่นต่อ ป.ป.ช. ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ ของกรมศุลกากร ดีเอสไอ และอัยการที่ทำคดี ในวันพุธที่ 2 พฤษภาคมนี้ และอาจยื่นต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อไป ในฐานะที่ประกาศไว้ว่า รัฐบาลนี้เข้ามาปราบปรามการทุจริต