ไม่พบผลการค้นหา
สมาคมมะเร็งนรีเวชไทยผนึกกำลังโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดโครงการ 'มะเร็งรังไข่เป็นภัยเงียบ ควรใส่ใจตรวจภายในทุกปี' ภายใต้แคมเปญ “Whisper of Ovary – เสียงกระซิบจากรังไข่” กระตุ้นสังคมไทยตระหนักรู้ถึงอันตรายของมะเร็งรังไข่

ศาสตราจารย์นายแพทย์จตุพล ศรีสมบูรณ์ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่าสำหรับประเทศไทย มะเร็งรังไข่เป็นโรคมะเร็งสตรีที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 3 รองจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก จากสถิติในแต่ละปีจะมีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งรังไข่ประมาณ 2,700 คน หรือใน 100,000 คนจะมี 6 คนที่เป็นโรคนี้ และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 2 ในบรรดามะเร็งนรีเวช รองจากมะเร็งปากมดลูก 

“สาเหตุที่ผู้หญิงมีอัตราการเสียชีวิตด้วยมะเร็งรังไข่สูง เนื่องจากในระยะแรกของโรคนี้จะไม่มีอาการบ่งบอกที่แน่ชัด แต่จะมีอาการคล้ายคลึงกับอาการของโรคอื่นๆ ที่รุนแรงน้อยกว่า เช่น ปวดท้อง ท้องอืด ท้องบวม ปวดอุ้งเชิงกราน กว่าคนไข้จะได้รับการวินิจฉัยแน่ชัดว่าเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งได้ลุกลามไปยังอวัยวะภายในอื่นๆ แล้ว”

จากสถิติพบว่าร้อยละ 64 ของผู้ป่วยมะเร็งรังไข่จะตรวจพบมะเร็งในระยะลุกลามแล้ว อีกทั้งมะเร็งรังไข่ยังไม่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน การส่งเสริมการรับรู้และสร้างความตระหนักถึงภัยเงียบที่ไร้สัญญาณเตือนนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

โครงการ “Whisper of Ovary - มะเร็งรังไข่เป็นภัยเงียบ ควรใส่ใจตรวจภายในทุกปี” 1.jpg

ด้วยเหตุนี้ สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย และศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ในฐานะโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็งที่สืบสานการดำเนินงานตามพระปณิธานในศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในการเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนชาวไทย

โดยมุ่งหวังให้โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นศูนย์ชำนาญการด้านการศึกษาวิจัยและการรักษาโรคมะเร็งของประเทศไทย จึงผนึกกำลังจัดโครงการ Whisper of Ovary “มะเร็งรังไข่เป็นภัยเงียบ ควรใส่ใจตรวจภายในทุกปี” เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรในการรณรงค์ให้คนในสังคมตระหนักรู้ถึงภัยร้ายของโรคมะเร็งรังไข่ และเชิญชวนให้ผู้หญิงไทยเข้ารับการตรวจภายในและพบสูตินรีแพทย์เป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยภัยเงียบ


“มะเร็งรังไข่เกิดจากหลายๆ ปัจจัย อาทิ อายุ สภาพแวดล้อม ไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันพบว่าความผิดปกติที่สืบทอดทางพันธุกรรมยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งรังไข่ จากสถิติพบว่าผู้หญิงที่มีความผิดปกติ หรือการกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 และ BRCA2 จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งรังไข่สูงถึง 35-70% และ 10-30% ตามลำดับในขณะที่บุคคลทั่วไปมีความเสี่ยงเพียง 1-2%”


ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองที่สามารถตรวจจับมะเร็งรังไข่ได้ตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการ อีกทั้งมะเร็งรังไข่ไม่มีอาการที่เฉพาะแน่นอน ดังนั้นผู้หญิงทุกคนจึงควรตรวจภายใน และพบสูตินรีแพทย์เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวหรือญาติใกล้ชิดเป็นมะเร็งรังไข่หรือมะเร็งเต้านมตั้งแต่อายุยังน้อย ปัจจุบันเราสามารถตรวจหาความผิดปกติของยีน BRCA ในผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ ซึ่งผู้ป่วยที่ตรวจพบความผิดปกติของยีนนี้จะมีโอกาสที่บุคคลในครอบครัว และญาติใกล้ชิดมีความผิดปกติของยีนเช่นเดียวกัน

ซึ่งการค้นพบความผิดปกติของยีน BRCA ยิ่งเร็วยิ่งจะช่วยให้สามารถคาดการณ์เฝ้าระวัง และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ได้ เช่นกรณีของนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง แองเจลิน่า โจลี ที่ได้ตัดสินใจผ่าตัดเต้านมทั้งสองข้างรวมทั้งมดลูกและท่อรังไข่ออก เนื่องจากมีประวัติทั้งยาย ป้า และแม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และเมื่อตรวจสอบทางพันธุกรรมยังพบว่าตัวเองมียีนที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่สูงถึงร้อยละ 87 และร้อยละ 50 ตามลำดับ

นอกจากนี้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสานต่อพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี สร้างโอกาสให้ผู้ป่วยมะเร็งยากไร้และด้อยโอกาสได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐาน สร้างเสริมสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ป่วยมะเร็ง ผ่านการสมทบทุนชื่อบัญชี ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โครงการ “สานต่อที่พ่อให้ทำ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งด้อยโอกาส” ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 407-985846-8 หรือ ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 229-4152-588 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โทร 02-576-6833-6

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: