คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวด้วยว่า การใช้คำสั่ง คสช.ที่3/2558 พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ดำเนินคดีกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า เป็นการใช้กฎหมายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญปี 2560 แสดงถึงความไม่เคารพในสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั้งที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว โดยเฉพาะการใช้มาตรา 116 ดำเนินคดีกับประชาชน คือการใช้กฎหมายที่ผิดไปจากเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญ
"เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้ รัฐธรรมนูญให้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานไว้ให้กับประชาชน เมื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้แล้ว ถือเป็นกฎหมายสูงสุด เมื่อรับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในกรอบของกฎหมาย ประชาชนย่อมมีสิทธิที่จะถูกคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ การแสดงความคิดเห็นตามกรอบของกฎหมาย เป็นสิ่งที่กระทำได้ เพียงแต่ว่าคณะ คสช. เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้เคารพสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญซึ่งร่างในขึ้นในสมัยของ คสช.เอง ไม่เคารพรัฐธรรมนูญที่ตัวเองสร้างขึ้น จึงเกิดความกลัวในสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะการแสดงความเห็นของประชาชนในเวลานี้ รัฐบาลและ คสช.มีความกลัวมากจนเกินไป จนทำให้เสื่อม การดำเนินคดีโดยใช้มาตรา 116 ผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะมาตรา 116 ให้เอาผิดคนที่ก่อให้เกิดความไม่มั่นคง เกิดอันตรายต่อรัฐ ซึ่งรัฐหมายถึงประเทศชาติ ไม่ใช่รัฐบาล แต่ขณะนี้รัฐบาลใช้มาตรา 116 เป็นเครื่องมือในการปกป้องตัวเอง เอาผิดผู้เห็นต่าง "คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลนี้ไม่เคารพในรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเป็นผู้ร่างขึ้นจึงทำสิ่งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญมากที่สุด ดังจะเห็นจากการใช้กฎหมายดำเนินคดีกับคนเห็นต่าง ซึ่งขณะนี้สามารถจำแนกได้ 3 กลุ่มคือ กลุ่มคนที่เรียกร้องประชาธิปไตย กลุ่มคนที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และกลุ่มคนที่ตรวจสอบการทุจริตคอรัปชัน ทำให้ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงบุคคลที่ถูกดำเนินคดี มากกว่าภาพพจน์ที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทย
ชี้มีความพยายามสร้างข่าวขัดแย้ง ให้รัฐบาลได้ต่อตั๋วอำนาจ
คุณหญิงสุดารัตน์ แกนนำพรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตด้วยว่าขณะนี้กำลังเกิดภาวะการต่อตั๋วอำนาจ พยายามสร้างข่าวความขัดแย้ง ด้วยการเชื่อมโยงไปถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งดร.ทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งดร.ทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีนักประชาธิปไตย ต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย ทำให้เชื่อว่าดร.ทักษิณจะไม่กระทำการในสิ่งใดที่รัฐบาลและ คสช.จะใช้เป็นข้ออ้างเพื่อเป็นตั๋วในการสืบทอดอำนาจได้
"เราเริ่มเห็นโครงร่างการสร้างเรื่องสร้างนิยายที่จะเดินไปสู่การต่อตั๋วอำนาจอยู่แล้ว เราก็ต้องตระหนักรู้ ถึงแม้เราไม่มีอำนาจ แต่ต้องให้บ้านเมืองอยู่อย่างปกติตามระบบให้ได้"คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำ
ข้อเสนอแนะไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ว่า หากพลเอกประยุทธ์ประกาศตัวว่าเป็นนักการเมืองแล้ว การเป็นนักการเมืองต้องเป็นด้วยหัวใจ ต้องฟังเสียงประชาชน และเคารพในสิทธิเสรีภาพของประชาชน การแก้ไขปัญหาใดๆนั้น รัฐบาลและ คสช.ต้องเปิดโอกาสให้มีการพูดคุย ทำความเข้าใจ รับฟังความคิดเห็น รวมถึงปัญหาต่างๆ และนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาแก้ไขปรับปรุง ดีกว่าการหาช่องใช้กฎหมายหลีกเลี่ยงรัฐธรรมนูญ และใช้อำนาจไปข่มเหงประชาชน