นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ผลการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนตุลาคม 2561 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศจำนวน 6,197 ราย ลดลง 116 ราย เมื่อเทียบกับเดือน กันยายน 2561 ที่มีจำนวน 6,313 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 2 ส่วนประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป /ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร
ขณะเดียวกัน จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการจำนวน 2,166 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 ที่มีจำนวน 1,899 ราย และเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 หรือ 369 ราย เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2560 ที่มีจำนวน 1,797 ราย ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร
ทั้งนี้ ช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 95.29 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดตั้งธุรกิจในปี 2561 ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของการประกาศใช้มาตรการการส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคล รวมไปถึงมาตรการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวและการเข้ามาของชาวต่างประเทศต่างๆ เช่น การยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ และการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ถือสมาร์ทวีซ่าสำหรับบุคคลเข้ามาพำนักในประเทศไทยชั่วคราว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้มีการประกอบธุรกิจและการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น