ไม่พบผลการค้นหา
ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีสนับสนุนมีบุตร 2 คนขึ้นไป ให้หักค่าลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 60,000 บาท ชี้เหตุผลรองรับสังคมสูงวัย ชี้ภายใน 18 ปี ประเทศไทยจะมีประชากรสูงอายุมากถึง 30%

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบมาตรการภาษีสนับสนุนการมีบุตร จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ หลังจากสถานการณ์อัตราการเกิดลดลง และแนวโน้มผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่า ภายในปี 2579 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด หรือมีสัดส่วนร้อยละ 30 ของประชากรทั้งหมด

สำหรับสาระสำคัญของมาตรการนี้ จะเพิ่มค่าลดหย่อนอีก 30,000 บาทต่อคนต่อปีภาษี สำหรับผู้มีเงินได้ที่มีบุตรตั้งแต่คนที่ 2 ขึ้นไป และเป็นเด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 โดยให้นำค่าฝากครรภ์ ค่าคลอดบุตร มาหักลดหย่อนภาษี ตามจำนวนจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 60,000 บาท 

โดยคาดว่า มาตรการนี้ จะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ 2,500 ล้านบาทต่อปีภาษี แบ่งเป็น ค่าหักลดหย่อนการมีบุตรคนที่ 2 จำนวน 1,500 ล้านบาท และค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร จำนวน 1,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ พ.ศ. .. และ ร่างกฎกระทรวง ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เกี่ยวกับ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (16 ม.ค.) และ ครม. มีการมติเห็นชอบแล้ว จะได้รับการนำส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาบังคับใช้ต่อไป

ก่อนหน้านี้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย และคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นว่า มาตรการลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว ไม่ช่วยกระตุ้นให้คู่สามี-ภรรยา ตัดสินใจมีลูกคนที่สองได้ จึงแนะนำให้ศึกษาความสำเร็จการเพิ่มจำนวนประชาชนในประเทศแถบทวีปยุโรป โดยการอำนวยความสะดวกเรื่องการเลี้ยงลูก พร้อมเปลี่ยนทัศนคติที่ว่ามีลูกมากจะยากจน

อ่านเพิ่มเติม :

'ลดหย่อนภาษี' ไม่ได้กระตุ้นการมีลูกคนที่สอง