ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส.สกอตแลนด์เรียกร้องให้ รมว.ต่างประเทศของสหราชอาณาจักรลาออก หลังเล่นมุกตลกไม่เหมาะสมระหว่างปราศรัยในที่สาธารณะ พาดพิงธุรกิจค้าประเวณีในไทยและประเด็นอ่อนไหวอื่นๆ

นายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวปราศรัยเรื่องการดำเนินการถอนตัวจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิท ที่สถาบันด้านนโยบาย Policy Exchange ในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 14 ก.พ. และสื่อมวลชนอังกฤษและสกอตแลนด์ต่างรายงานว่านายจอห์นสันเล่นมุกตลกหลายเรื่อง ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อประเทศชาติ ในฐานะที่เขาดำรงตำแหน่ง รมว. ต่างประเทศ ที่ต้องติดต่อและสานความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ 

หนึ่งในมุกตลกที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด คือ กรณีที่จอห์นสันกล่าวว่าสหราชอาณาจักรควรส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจัดให้มีเที่ยวบินราคาประหยัดเพิ่มมากขึ้น เพราะเขาเพิ่งจะทราบว่าในแต่ละปีมีชาวอังกฤษนับล้านคนเดินทางไปยังประเทศไทย เพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆ นานาที่เขา 'ไม่ขอพูดถึง' ซึ่งเว็บไซต์ดิอินดีเพนเดนท์ระบุว่าจอห์นสันพาดพิงถึงธุรกิจค้าประเวณี หรือเซ็กซ์ทัวร์ที่ดึงดูดชาวอังกฤษให้เดินทางไปยังประเทศไทย

ผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายรายทวีตข้อความพร้อมลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่เผยแพร่คำกล่าวปราศรัยของจอห์นสัน พร้อมระบุว่าเป็นการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสมกับหน้าที่ที่กำลังรับผิดชอบ 

(ผู้สื่อข่าวในสกอตแลนด์เป็นหนึ่งในผู้ทวีตข้อความวิพากษ์วิจารณ์นายจอห์นสัน)

ด้านเว็บไซต์เดอะเนชั่นแนล สื่อของสกอตแลนด์ รายงานว่านายเจมส์ ดอร์แนน ส.ส.พรรคชาตินิยมสกอต (SNP) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่อันดับ 3 ของสหราชอาณาจักร รองจากพรรครัฐบาลอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงาน เรียกร้องให้จอห์นสันลาออกจากตำแหน่ง เพราะกล่าวถึงเซ็กซ์ทัวร์อย่างหน้าตาเฉย และนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี ควรทบทวนบทบาทของจอห์นสันเสียใหม่

สื่อสกอตระบุว่า นักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตก รวมถึงชาวอังกฤษที่นิยมเซ็กซ์ทัวร์ เดินทางไปยังประเทศไทยเป็นจำนวนมากในแต่ละปี แต่ธุรกิจเหล่านี้เกี่ยวพันการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยมีการยกตัวอย่างการบุกทลายสถานค้าบริการในกรุงเทพฯ ซึ่งเกี่ยวพันกับการค้าประเวณีเด็ก เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ รมว.ต่างประเทศอย่างจอห์นสันกลับนำเรื่องดังกล่าวมาล้อเล่น โดยไม่ตระหนักถึงความอ่อนไหวของประเด็นดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จอห์นสันเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์มาแล้วหลายครั้งว่าไม่มีความละเอียดอ่อนและไม่เข้าใจความซับซ้อนของบริบททางสังคม โดยเมื่อปีที่แล้วเขาเคยพูดว่าเมืองเซิร์ตในลิเบีย ซึ่งเป็นสมรภูมิความขัดแย้งและความรุนแรงมานานหลายปี จะรุ่งเรืองเฟื่องฟูแบบเดียวกับนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ แต่ต้องกำจัดศพคนตายให้หมดไปเสียก่อน จนมีเสียงเรียกร้องให้นางเมย์ปลดเขาออกจากตำแหน่ง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

000_ZI7O0.jpg

นอกจากนี้ จอห์นสันเพิ่งเดินทางเยือนไทยเมื่อวันที่ 11-12 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้มีโอกาสเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย

แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า "การเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรครั้งนี้ สะท้อนถึงความสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร"

"ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีตามที่ได้มีการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย – สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 3 ในด้าน (1) เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) (2) อุตสาหกรรมอากาศยาน (3) วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และ (4) ความร่วมมือด้านการศึกษา"

"โดยภายหลังที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการ Eastern Economic Corridor (EEC) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรได้แสดงความเชื่อมั่นต่อพลวัตทางเศรษฐกิจของไทย อีกทั้งชื่นชมและแสดงความสนใจที่จะขยายการลงทุนของสหราชอาณาจักรในโครงการ EEC"

อ่านเพิ่มเติม: