ไม่พบผลการค้นหา
ที่ประชุมมีมติเลือก 'สงคราม กิจเลิศไพโรจน์' นั่งหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เจ้าตัวเผยสาเหตุยอมรับตำแหน่ง เพราะมองว่า สังคมไทยกำลังป่วยเหมือนเป็นมะเร็ง มีปัญหาทุกด้าน ทุกรัฐบาลไม่สามารถทำงานได้เหมือนเป็น 'เป็ดง่อย'

วันนี้ (23 พ.ย.61) พรรคเพื่อชาติ จัดประชุมใหญ่ เลือกหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวมถึงคณะกรรมการสรรหาผู้ผู้สมัครตามกฎหมายเลือกตั้ง ที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์รังสิต โดยมีสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคจำนวนมาก จากทุกเขตเลือกตั้งโดยอิงเขตเลือกตั้งเก่า ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ มีการตั้งโต๊ะให้สมัครและทำสมาชิกพรรค และส่วนที่รับฟังความคิดเห็น ก่อนจะมีการเลือกและเปิดตัวกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 

โดยที่ประชุมมีมติเลือกนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนรองหัวหน้าพรรค 7 คน ประกอบด้วยพันตำรวจโทสมชาย เพศประเสริฐ , นายอารี ไกรนรา, นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล, นายบุศรินทร์ ติยะไพรัช, นายปรียนันท์ สุวรรณคีรี, รองศาสตราจารย์ ลลิตา ฤกษ์สำราญ และนายวิโชติ วัณโณ โดยมีนายเทวกฤต พรหมมา ผู้อำนวยการพรรค  



23780.jpg

เลขาธิการพรรค ได้แก่ นางลินดา เชิดชัย, รองเลขาธิการพรรค 2 คน คือ นางสาลี่ คีตะนิธินันท์ กับนายศักดา นพสิทธิ์ ขณะที่นางดุจดาว กัปปะหะ เป็นเหรัญญิกพรรค, นายองอาจ คำทอง เป็นนายทะเบียนพรรค 

โฆษกพรรค คือ นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง, รองโฆษกพรรคอีก 3 คนคง ได้แก่ นายธีรพงษ์ เผ่ากา, นายรยุศด์ บุญทันและนางสาวพรพรหม พรหมชาติ 

สำหรับกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ ประกอบด้วย นายเถลิงยศ บุตุคำ ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, ศาสตราจารย์สุชาติ อุทัยวัฒน์ , นายพรศักดิ์ ศรีละมุล, นายสฤษดิ์เดช ธนาวุฒิ , นายมนตรี เฉียบแหลม, นายเถลิงยศ บุตุคำ , นายไพบูลย์ บุตรเลียบ และนางวารีรัตน์ แก้วเงิน ซึ่งทั้งหมดได้มติจากที่ประชุมเอกฉันท์ 256 คะแนน


23841.jpg

ด้านนายสงคราม กล่าวเปิดใจว่า ได้รับการทาบทามให้มาเป็นหัวหน้าพรรคและปฏิเสธไปหลายครั้ง ซึ่งตัวเองอยู่เฉยๆก็สบายไม่จำเป็นต้องมาเหนื่อย แต่ที่ยอมรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ หลังปรึกษากับภรรยาแล้ว เพราะมองว่า สังคมไทยกำลังป่วยเหมือนเป็นมะเร็ง ตลอด 12 ปีที่ผ่านมาประเทศชาติมีปัญหาทุกด้าน ทุกรัฐบาลไม่สามารถทำงานได้เหมือนเป็ดเป็นง่อย จึงไม่ทนอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะทำให้รัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศในอนาคตจะเชิญความยากลำบาก ดังนั้นพรรคเพื่อชาติซึ่งยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย มีแนวทางเป็นเกาะกลาง พร้อมประสานพูดคุยกับทุกฝ่าย แม้มีจุดยืนแตกต่างกัน  

ส่วนคำถามที่ว่า นายสงครามเป็นคนรวย จะคิดถึงคนยากคนจนหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ตัวเองไม่ใช่เกิดมาก็รวยหรือคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด แต่สร้างตัวมาจากความยากจน เริ่มลงทุนด้วยเงิน 130 บาทตอนอายุ 13 ปีโดยการขายเครื่องประดับสุภาพสตรี และต้องวิ่งขายเรียงเบอร์ หรือใบตรวจสลากกินเเบ่งรัฐบาลมาตั้งแต่เด็ก 

สำหรับนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงยังเคยเป็นเหรัญญิก พรรคพลังประชาชนอีกด้วย ก่อนจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ภายหลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรคในปี 2551

นอกจากนี้ นายสงครามยังเป็นนักธุรกิจนำเข้าสินค้าของเด็กเล่นจากต่างประเทศ และยังดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล อีกด้วย



อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :