วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุเตรียมยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กทม ว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายความมั่นคง ซึ่งไม่จำเป็นต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมครม. ซึ่งคนละเรื่องกันกับการต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กทม.นั้น นายกรัฐมนตรีได้หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ว่าถ้าจำเป็นต้องยกเลิก มีข้อกำหนดไว้ตามมาตรา 11 วรรคสุดท้ายให้อำนาจนายกรัฐมนตรีไว้ โดยไม่ใช่อำนาจของครม.
อย่างไรก็ตาม ตนได้รับทราบ กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมขีดเส้นให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออกภายใน 3 วันแล้ว ส่วนหากยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีมาตรการใดควบคุมการชุมนุมหรือไม่ วิษณุ ระบุว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินครอบคลุมการป้องกันโควิด-19 ซึ่งไม่ได้ปิดกั้นการชุมนุม แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถบรรจุเรื่องการห้ามชุมนุมเข้าไปเป็นข้อกำหนดได้ เนื่องจากพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นแม่ ส่วนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นลูก ซึ่งหากยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วก็สามารถประกาศใหม่ได้
วิษณุ ยืนยันกรณีที่ศบค.เห็นชอบขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. 2563 จะไม่มีการบรรจุข้อกำหนดห้ามการชุมนุมลงไปแน่นอน
นายกฯ ปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ ภายหลังจากที่เมื่อวานนี้ (21 ต.ค. 2563) กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้ามายังทำเนียบรัฐบาล และยื่นหนังสือผ่านประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นจะยกระดับการชุมนุม
ซึ่งบรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาลวันนี้ยังคงมีการวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตามปกติ ขณะที่บริเวณถนนพระรามที่ 5 ด้านข้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพาณิชย์พระนคร มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนประจำการอยู่ แต่ไม่ได้มีการปิดเส้นทางแต่อย่างใดรถสามารถสัญจรไปมาได้
อย่างไรก็ตาม วันนี้นายกรัฐมนตรีไม่มีภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ในช่วงเย็นนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จพระราชทานเพลิงศพ พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา บิดานายกรัฐมนตรีที่วัดเทพศิรินทราวาสในเวลา 17.00 น.ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :