ไม่พบผลการค้นหา
ไชน่า ชิป บิลดิ้ง อินดัสตรี คอร์ปอเรชั่น บริษัทต่อเรือของจีน เริ่มลงมือต่อเรือดำน้ำมูลค่า 13,500 ล้านบาทให้กับไทยแล้ว โดยมีผู้แทนไทยและจีนเข้าร่วมในพิธีตัดเหล็กเพื่อต่อเรือที่เมืองอูฮั่น มณฑลหูเป่ย เมื่อ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา

นสพ.เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า เรือดำน้ำรุ่นที่ไทยสั่งซื้อจากจีน เป็นเรือดำน้ำพลังดีเซลไฟฟ้ารุ่นเอส 26 ที พัฒนามาจากรุ่น 039 บีซึ่งเป็นแบบหนึ่งของเรือดำน้ำรุ่นหยวน (Yuan) ไทยสั่งซื้อเอาไว้เมื่อปี 2560 คาดว่าจะได้รับส่งมอบในปี 2566 เรือนี้จะมีระวางขับน้ำ 2,600 ตัน ความเร็วสูงสุด 18 น๊อต สามารถดำน้ำได้นานต่อเนื่อง 20 วัน ใช้เทคโนโลยีระบบกันเสียงและอิเล็กทรอนิกส์แบบล่าสุด เรือสามารถบรรทุกจรวดตอร์ปีโดได้ 16 ลูก บรรทุกทุ่นระเบิดได้ 30 ลูก ข่าวชี้ว่า การสั่งซื้อเรือดำน้ำเพียง 1 ลำ เป็นการลดเป้าหมายลงจากเดิมที่กองทัพเรือมีแผนจะสั่งซื้อสามลำ โดยที่ลดจำนวนลงเป็นเพราะมีเสียงต่อต้านอย่างมาก 

ข่าวระบุว่า นอกจากสร้างเรือดำน้ำดังกล่าวแล้ว จีนน่าจะต้องถ่ายทอดความรู้เรื่องการใช้งานให้ด้วย นายจู เฉินหมิง นักสังเกตการณ์ชาวจีนบอกกับเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า ไทยไม่มีประสบการณ์ในเรื่องการใช้เรือดำน้ำ ดังนั้นจีนก็จะต้องฝีกอบรมเรื่องนี้ให้ด้วย เขาบอกว่าที่ผ่านมาไทยเป็นผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ของจีน นับตั้งแต่ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจ ไทยก็เข้าใกล้จีนมากขึ้น จากเดิมที่เคยสนิทสนมกับสหรัฐฯ 

ในขณะที่ไทยซื้อเรือดำน้ำจากจีนไปเสริมแสนยานุภาพกองทัพเรือ เวียดนามก็สั่งซื้อเรือดำน้ำรุ่นกิโล (Kilo) จากรัสเซีย 6 ลำ และเมียนมาหันไปจับมือด้านการทหารกับอินเดียมากขึ้น

CLIP Tonight Thailand : ซื้อเรือดำน้ำจีนผ่านครม.แล้วตั้งแต่ 18 เม.ย.

นสพ.ระบุว่า ภายในปีนี้จีนยังจะส่งมอบอาวุธให้กับไทย เป็นรถถังรุ่นวีที 4 ซึ่งข่าวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสั่งซื้อไว้จำนวน 49 คัน เพื่อจะเอามาแทนที่รถถังรุ่นเอ็ม 41 ของสหรัฐฯ ที่ใช้งานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จีนได้ส่งมอบรถถังรุ่นใหม่นี้ให้ไทยไปแล้วจำนวน 28 คันเมื่อปี 2560 ที่เหลือจะส่งมอบภายในปีนี้ 

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์อ้างนักวิชาการจีนให้ความเห็นว่า ในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสองมหาอำนาจนั้น ไทยคงจะยังดำรงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ต่อไป ในขณะที่เขามองว่าจีนนั้นไม่สามารถแข่งขันกับสหรัฐฯ ได้ในเรื่องการค้าอาวุธ แต่อาวุธของจีนมีราคาที่ดึงดูดกว่า สมรรถนะสอดคล้องกับพื้นที่มากกว่า รวมทั้งบริการดูแลหลังการขายที่ดี ทำให้เป็นทางเลือกสำหรับประเทศในย่านนี้ 

ข่าวระบุว่าในปี 2559 จีนได้ทำสัญญาขายเรือดำน้ำรุ่นเอส 20 จำนวน 8 ลำให้กับปากีสถาน มูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ และทำสัญญาขายเรือดำน้ำขนาดเล็กลงไปอีกคือรุ่น 35 จี เป็นรุ่นหมิงให้กับบังกลาเทศ 

ข่าวอ้างตัวเลขจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศของสวีเดนที่คาดว่า ส่วนแบ่งการตลาดของอาวุธจีนนั้นขยายตัวมากขึ้น โดยในช่วงปี 2556-2560 อยู่ที่ร้อยละ 5.7 เพิ่มร้อยละ 4.6 จากช่วงปี 2551-2555

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: