เศรษฐกิจ
สื่อนอกชี้ ไทยอ้าแขนต้อนรับทุนจีนที่ต้องชุบตัวหนีสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
นิกเกอิ เอเชียน รีวิวรายงานว่าการต้อนรับนักลงทุนจากจีนร่วม 500 รายหนนี้ ไทยมีเป้าหมายใหญ่เพื่อดึงการลงทุนจากจีน เพราะมุ่งหวังจะเชื่อมโยงเข้ากับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt, One Road) ของจีนเพื่อเข้าสู่ตลาดใหญ่ทางภาคใต้ อีกด้าน จีนคาดว่าจะอาศัยไทยเป็นฐานการผลิตมุ่งสู่ตลาดที่กำลังปกป้องตัวเองมากขึ้นอย่างสหรัฐฯ
ในช่วงของการเยือนดังกล่าว ไทยและจีนจะลงนามกันในข้อตกลงที่จะส่งผลให้มีการเชื่อมโยงการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เข้ากับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
ข่าวของนิกเกอิ เอเชียน รีวิวระบุว่า การจับมือกันหนนี้ถือว่าให้ประโยชน์กับจีนอย่างมาก เพราะท่ามกลางบรรยากาศที่จีนกำลังมีปัญหาทางการค้ากับสหรัฐ การลงทุนนี้จะทำให้จีนสามารถส่งออกสินค้าที่ผลิตในไทยเข้าสู่สหรัฐฯ ได้โดยไม่ต้องติดขัดในเรื่องมาตรการกำแพงภาษีการค้าที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ นำมาใช้กับสินค้าของจีน
สแตนลีย์ กัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) บอกว่า นี่เป็นสิ่งที่นักลงทุนของจีนจะต้องทำในเวลานี้ คือมองหาสถานที่ลงทุนนอกประเทศ และต้องเป็นสถานที่ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง ทั้งนี้เพื่อจะเลี่ยงปัญหาผลกระทบจากสงครามการค้า ในขณะที่อีกด้านก็เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับจีนในตลาดโลกไปด้วย
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของไทย นายอุตตม สาวนายน บอกว่าการทำบันทึกความเข้าใจร่วมไทยจีนจะครอบคลุมโครงการที่จะทำให้เขตอีอีซีของไทยเป็นศูนย์กลางของการลงทุนทางอุตสาหกรรมในอนาคต พร้อมที่จะเชื่อมต่อเข้ากับเขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ซึ่งเรียกกันโดยรวมว่าซีแอลเอ็มวี (CLMV) ผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ได้จากการลงทุนในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน
นายอุตตมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สินค้าที่ผลิตในเขตอุตสาหกรรมเหล่านี้จะถูกนำไปสู่พื้นที่ภาคใต้ของจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่มีผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก
นักลงทุนจีนและไทยจะลงนามในบันทึกความเข้าใจทั้งหมด 17 ฉบับด้วยกัน ครอบคลุมความร่วมมือตั้งแต่ในเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล การถ่ายโอนเทคโนโลยี การพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่าเทคโนโลยีรุ่น 5 และในอุตสาหกรรมยานยนต์รุ่นถัดไป นักลงทุนทั้งไทยและจีนยังจะเข้าร่วมในการเสวนามองอนาคตของเขตอีอีซีไทยที่ต้องการจะดึงนักลงทุนจีนเพิ่มเติม โดยเฉพาะเพื่อให้เข้าร่วมลงทุนในโครงการต่อเนื่องเพื่อเชื่อมเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯเพื่อให้ไปถึงคุนหมิง ซึ่งขั้นตอนแรกของโครงการนี้เป็นการเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯกับนครราชสีมา เริ่มก่อสร้างในเดือนธ.ค.ปีนี้ และโครงการทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2023
เส้นทางนี้จะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ ถึงคุนหมิงลงเหลือ 13-14 ชั่วโมง
แต่นายอุตตมกล่าวว่า การดึงดูดการลงทุนจากจีนมากขึ้นไม่ได้หมายความว่าไทยจะถูกครอบงำโดยจีน เขาระบุว่าการลงทุนของจีนจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายการลงทุนของไทยที่ควบคุมการลงทุนในเขตอีอีซี เขาย้ำว่าประเด็นสำคัญไม่ใช่เรื่องของการครอบงำ แต่เป็นเรื่องของการเติบโตไปด้วยกัน ไม่ใช่แต่เพียงไทยและจีนเท่านั้น ทว่าทั้งภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม นิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า สำหรับจีนแล้ว การลงทุนในไทยเป็นการลดปัญหาผลกระทบจากปัญหาการค้าที่มีกับสหรัฐฯ ในเวลานี้ และอ้างแหล่งข่าวในกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า เนื้อหาในบันทึกความเข้าใจที่จะลงนามกันนั้นจะเอื้ออำนวยให้มีการร่วมมือกันและให้มีการลงทุนใหม่ๆ ที่จะช่วยให้กิจการของจีนสามารถส่งออกสินค้าจากไทยไปยังตลาดสหรัฐ ฯได้สะดวกมากขึ้นกว่าสินค้าที่ผลิตในจีนเอง
ก่อนหน้าที่จะต้อนรับกลุ่มนักลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศกลุ่มนี้ ไทยก็เคยรับนักลงทุนจากญี่ปุ่นจำนวน 600 รายมาแล้วเมื่อเดือน ก.ย.ปี 2550 ข่าวระบุว่าจีนนั้นยกให้ไทยเป็นพื้นที่ลงทุนในต่างประเทศที่สำคัญเป็นอันดับสามรองลงมาจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ในปี 2550 การลงทุนจีนในไทยมีมูลค่า 27,500 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
