ไม่พบผลการค้นหา
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ คำสั่ง คสช. แก้กฎหมายพรรคการเมือง มีเป้าหมายเพื่อเซ็ตซีโร่พรรคการเมือง มากกว่าสร้างความเท่าเทียม เพราะต้องเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่ทั้งหมด และกระทบการทำไพรมารี่โหวต

นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คำสั่ง คสช. 53/2560 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ประกาศเมื่อเย็นวานนี้(22ธ.ค.) เป็นเรื่องน่าอับอาย และขายหน้าที่สุด เพราะผู้มีอำนาจไม่ได้คิดบนพื้นฐานของความเป็นจริง จนทำให้คิดได้ว่า คำสั่งนี้ทำเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งหรือไม่

แม้ใช้ช่วงแรกของคำสั่งนี้จะอารัมภบทสวยหรู ว่าทำเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายในการปฏิรูปการเมือง แต่สุดท้ายมองว่า นี่คือการ 'เซ็ตซีโร่' พรรคการเมือง เนื่องจาก กำหนดให้เปิดรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่ทั้งหมด ภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 มิฉะนั้น จะถือว่าพ้นสมาชิกภาค ซึ่งสร้างภาระและความยุ่งยากให้กับพรรคการเมืองเป็นอย่างมาก 

อย่างไรก็ตาม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า จะดำเนินการตามคำสั่งนี้อย่างแน่นอน เพียงแต่ขอตั้งข้อสังเกตและท้วงติงในสิ่งที่มองว่า อาจเป็นอุปสรรคต่อการเมืองตั้งตามโรดแมป คสช. พร้อมยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ขัดข้อง หากจะมีทหารมาจัดตั้งพรรคการเมือง แต่ขอให้เป็นคนดี ทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง และดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของแนวทางประชาธิปไตย

ด้านนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 เพิ่มภาระความยุ่งยากให้กับประชาชนที่ต้องการร่วมปฏิรูปการเมืองใหม่ เพราะในมาตรา 26 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 กำหนดไว้แล้วว่า หากคนหนึ่งคนใดเป็นสมาชิกพรรคการเมืองพร้อมกัน 2 พรรค นายทะเบียนพรรคการเมืองจะตรวจสอบแล้วส่งเรื่องให้หัวหน้าพรรคการเมือง ยกเลิกการเป็นสมาชิกของคนๆ นั้นไป แต่คำสั่ง คสช. ฉบับล่าสุด กลับกำหนดให้ต้องเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่ทั้งหมด 

ทั้งนี้เชื่อว่า จะอาจส่งผลกระทบต่อการทำไพรมารี่โหวต หรือการสรรหาตัวผู้สมัครแต่ละสาขาพรรค ซึ่งเป็นหัวใจของการปฏิรูปการเมือง สุดท้ายแต่ละพรรค ต้องหันไปใช้ในบทเฉพาะกาล ซึ่งอาจไม่ได้ตัวแทนพรรคที่เหมาะสม

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า คำสั่ง คสช. ฉบับล่าสุดนี้ เป็นเพียงการขยายเวลา ไม่ได้ถือว่าเป็นการปลดล็อคทางการเมือง เพราะการปลดล็อค หมายถึงการให้พรรคการเมือง สามารถทำกิจกรรมได้ในทันที 

ทั้งนี้ อยากเห็นการปลดล็อคอย่างแท้จริง อยากให้ประเทศไทยเข้าสู่บรรยากาศของความเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ค่อยๆ คลายล็อคให้พรรคการเมืองทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ หากปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง ก็จะไม่มีพรรคการเมืองใดลุกขึ้นมาโวยวาย หรือต่อต้าน

ส่วนคำสั่ง คสช. ฉบับนี้ จะกระทบโรดแมปการเลือกตั้งหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า "การที่อียูประกาศปลดล็อคให้ไทย ในเรื่องสิทธิการทำมาค้าขายได้ ก็เพราะเขาเห็นว่า เรากำลังจะเข้าสู่โรดแมป การคืนอำนาจคืนความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นถ้าจะเกิดความล่าช้า หรือมีเหตุใดขึ้นมา ก็จะทำให้ส่งผลกระทบต่อเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้นำประเทศ"

รายงานโดย วีรนันต์ กัณหา