ภายหลังศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน ของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และผู้ประกอบการรถตู้โดยสาร ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เนื่องจากกรมการขนส่งทางบก มีคำสั่งให้รถตู้ที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปีขึ้นไปต้องหยุดให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก
โดยคำร้องขอมี 2 เรื่อง คือ 1. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีกรมการขนส่งทางบก อนุญาตให้รถตู้หมวด 1 ซึ่งวิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ขยายอายุการวิ่งบริการออกไป 5 ปี เพื่อรอรถไฟฟ้าสายต่าง ก่อสร้างให้แล้วเสร็จก่อน และข้อ 2 ในส่วนของรถตู้หมวด 2 ซึ่งวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ขอให้ยกเลิก "การบังคับ" ให้รถตู้เปลี่ยนเป็นรถมินิบัส แต่ขอให้เป็นการเปลี่ยน "ด้วยความสมัครใจ" แทน เพราะรถมินิบัสมีราคาสูงกว่าหลายเท่า ซึ่งชาวรถตู้ส่วนใหญ่ไม่มีเงินมากเพียงพอที่จะเปลี่ยนรถได้ อาจก่อให้เกิดการกู้หนี้ยืมสิน
ล่าสุด วันนี้ (2 ต.ค.61) นายศรีสุวรรณ พร้อมกับผู้ประกอบการรถตู้ ได้เดินทางไปยื่นคำร้องดังกล่าวต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล โดยเห็นว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเร่งด่วนที่มีแต่นายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่สามารถ ออกมาตรา 44 แก้ไขได้ ซึ่งยังเป็นคำร้องเดิม 2 เรื่อง ที่ยื่นต่อศาลปกครองกลางให้มีการไต่สวนฉุกเฉิน
ทั้งนี้ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า การมายื่นคำร้อง หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ชาวรถตู้และครอบครัวทั่วประเทศ ที่มีอยู่ราว 16,000 คัน หรือเกือบ 100,000 คน จะบอกกันปากต่อปากไม่เลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี และเลือกให้พรรคการเมืองที่ไม่สนับสนุนนายกฯ เข้ามาทำหน้าที่รัฐบาลแทน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :