ไม่พบผลการค้นหา
สื่อด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่ากองทัพอากาศไทยตั้งเป้าจะซื้อเครื่องบินกริพเพน แทนลำที่ตกในงานวันเด็กเมื่อปี 2560 แต่ยังไม่ได้ระบุกรอบเวลาจัดซื้อจัดหาที่ชัดเจน

นาวาอากาศเอกปรัชญา ทิพยรัตน์ เสนาธิการกองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับรับสื่อต่างประเทศ เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา (27-28 พ.ย. 2561) และได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของ Defense News และ IHS Janes ซึ่งเป็นสื่อด้านความมั่นคงและการทหารที่ได้รับการยอมรับในแวดวงระดับโลก

สื่อทั้งสองสำนักรายงานว่า กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดูแลเครื่องบินขับไล่ 'กริพเพน' ของกองทัพทั้ง 11 ลำ และ น.อ.ปรัชญาระบุว่า กองทัพอากาศไทยพึงพอใจในประสิทธิภาพของเครื่องบินขับไล่กริพเพนของบริษัทซาบ ผู้ผลิตและจำหน่ายอากาศยานรายใหญ่ของสวีเดน และมีความสนใจที่จะจัดซื้อจัดหากริพเพนเครื่องใหม่เพิ่มเติม แต่ยังไม่อาจระบุว่าจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อใด

ปัจจุบัน กองทัพอากาศมีเครื่องบินกริพเพนทั้งหมด 11 ลำ จากเดิมที่เคยมี 12 ลำ แต่เครื่องบินลำหนึ่งตกกระแทกพื้นขณะจัดงานวันเด็กเมื่อปี 2560 ทำให้นักบินเสียชีวิต และกองทัพอากาศต้องการเครื่องบินมาทดแทนลำที่เสียไป

น.อ.ปรัชญา เปิดเผยด้วยว่าเครื่องบินกริพเพนที่มีอยู่ จำเป็นต้องได้รับการอัปเกรดระบบเช่นกัน จากเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์รุ่น MS19 ต้องปรับปรุงให้เป็นรุ่น MS20 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยเฉพาะความแม่นยำในการโจมตีจากอากาศสู่พื้นดิน และการพัฒนาระบบเพื่อภารกิจลาดตระเวน

ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศที่เข้าร่วมสังเกตการณ์และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของทางการไทย ได้รับการประสานงานและอำนวยความสะดวกโดยบริษัทซาบ 

ส่วนผลสอบสวนกรณีเครื่องบินกริพเพนตกในงานวันเด็กที่ัจังหวัดสงขลาเมื่อปี 2560 ถูกเปิดเผยเมื่อเดือน ม.ค. 2561 โดยกองทัพอากาศระบุว่า เครื่องบินไม่มีปัญหา เป็นเครื่องที่ดีพร้อมใช้งาน และนักบินเองเป็นนักบินที่ผ่านการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงมีแนวโน้มว่าจะเกิดจากการหลงสภาพการบินชั่วขณะ (Spatial Disorientation) ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย 

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญและผลการศึกษาทางด้านเวชศาสตร์การบินระบุว่า การหลงสภาพการบินชั่วขณะมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับนักบินทุกคน แม้ว่านักบินเหล่านั้นจะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีก็ตาม

การสอบสวนเหตุเครื่องบินตกดังกล่าว เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่นิรภัยการบินของกองทัพอากาศไทย ที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน รวมถึงสำนักงานยุทโธปรณ์ทางทหารของสวีเดนและบริษัทซาบ

ที่มา: Defense News/ The Diplomat

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: