ไม่พบผลการค้นหา
สื่อด้านความมั่นคงของอังกฤษเผยว่า กระทรวงกลาโหมไทยได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับปี 2561 เล็งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่ม โดยล่าสุดพิจารณา ฮ.โจมตีจากหลายประเทศ

IHS Jane สำนักข่าวด้านความมั่นคงของอังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) ว่า รัฐบาลไทยจัดสรรงบประมาณกระทรวงกลาโหมและกองทัพไปเมื่อต้นเดือน มิ.ย. และงบประมาณด้านความมั่นคงประจำปี 2562 เพิ่มขึ้นกว่า 9,160 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.2 ของงบปี 2561 

นอกจากนี้ ยังรายงานด้วยว่า กองทัพไทยมีแผนจะจัดซื้อจัดหาเครื่องเฮลิคอปเตอร์โจมตีรุ่นใหม่ เพื่อนำไปทดแทนรุ่น AH-1F คอบรา ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2533 โดยอ้างอิงคำแถลงของ พล.ต.วีรยุทธ อินทร์วร ผู้บัญชาการศูนย์การบินทหารบก (ผบ. ศบบ. ทบ.) ในจังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. โดยระบุว่า กองทัพบกมีโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์เข้าประจำการเพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์เก่า จำนวน 3 ลำ ที่กำลังจะปลดประจำการ

IHS Jane ระบุด้วยว่า กองทัพบกต้องการจัดซื้อจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีมานานแล้ว แต่ยังติดขัดเรื่องงบประมาณ ขณะที่การพิจารณาตัวเลือกเฮลิคอปเตอร์โจมตีครั้งนี้ มีผลจากงบประมาณปี 2562 ที่เพิ่งผ่านมติคณะรัฐมนตรีเมื่อต้นเดือน มิ.ย. ตั้งวงเงินให้กระทรวงกลาโหมและกองทัพรวมกว่า 2.27 แสนล้านบาท

ส่วนเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่กองทัพบกสนใจและได้รับการเสนอรายชื่อให้พิจารณา ได้แก่ Mi-28/ KA-52 จากรัสเซีย AH-1Z Viper/ AH-64 Apache/Tiger-F จากฝรั่งเศส, AW-129 จากอิตาลี และ Z-11 จากจีน

ขณะเดียวกัน IHS Jane รายงานด้วยว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) อยู่ระหว่างเดินทางเยือนจีนช่วงวันที่ 11-15 มิ.ย. ได้พบกับ พล.อ.หันเว่ยกั๋ว ผบ.ทบ. กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน โดยมีการหารือกันด้านความร่วมมือทางทหาร อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และการฝึกซ้อมรบร่วมกัน

ทั้งนี้ จีนจะต้องจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุง ซ่อมแซม และยกเครื่องยุทโธปกรณ์ (MRO) ในประเทศไทยให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการที่กองทัพไทยจัดซื้อรถถัง รุ่น VT4 และยานเกราะล้อยาง VN1 จากจีนเมื่อปีที่แล้ว และจะต้องทยอยจัดส่งภายในปีนี้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: