วันที่ 21 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า ช่วงเวลาที่ผ่านไป 2 วันนั้น ฝ่ายค้านได้ใช้เวลาตามที่กำหนด ในฝ่ายรัฐบาลใช้เวลาที่กำหนดเช่นเดียวกัน คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ในส่วนของบรรยากาศที่อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายที่ผ่านมาก็น่าพอใจทั้งสองฝ่าย และถือว่าฝ่ายค้านได้ทำการบ้านเพิ่มเติมมาในเรื่อง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 

ชินวรณ์ กล่าวว่า ตอนแรกยังไม่มีหมัดเด็ดที่นำไปสู่เรื่องที่รัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงได้ หรือว่าเป็นประเด็นที่นำไปสู่ร้องต่อองค์กรอิสระ ได้อย่างแท้จริง อาจจะต้องมีการประมวลผลว่าฝ่ายค้านจะสามารถดำเนินการต่อเนื่องได้หรือไม่ในบางกรณี เป็นเรื่องที่ให้กำลังใจฝ่ายค้าน เพราะหากฝ่สยค้านทำหน้าที่ในส่วนนี้ได้ดี ทำให้ระบบรัฐสภาเป็นไปตามความต้องการของพี่น้องประชาชน ส่วนฝ่ายรัฐบาลเองมีการประเมินเริ่มต้นว่า รัฐมนตรีที่ตอบไปแล้ว เป็นเรื่องข้อมูลที่เก่า และใหม่ เพราะฉะนั้น รัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้อยู่ในระดับที่พอใจ แต่ก็มีบางประเด็นที่คิดว่า ฝ่ายค้านนำไปยื่นต่อองค์กรอิสระได้หรือไม่ เพื่อทำให้ประชาชนมั่นใจผลจากการอภิปราย 

ชินวรณ์ เสริมว่า ในเรื่องของนายกรัฐมนตรี ต้องติดตามว่า ฝ่ายค้านสามารถทะลวงหัวใจสำคัญในการบริหารงานทุจริตคอรัปชั่นได้หรือไม่ ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่อยู่ในการจับตาของพี่น้องประชาชน ถ้าเป็นเรื่องเดิมที่ฝ่ายค้านเคยกล่าว ตนคิดว่า นายกฯ สามารถตอบได้ และนายกฯ สามารถแสดงผลงานในช่วงที่ผ่านมาได้ 

ชินวรณ์ กล่าวต่อไปว่า ฝ่ายค้านอาจจะมองว่า รัฐมนตรีทำงานล้มเหลวผิดพลาด ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ในส่วนรัฐบาลมองว่า สามปีที่ผ่านมา ก็สามารถประคับประคองบ้านเมืองให้เดินต่อไปได้ ภายใต้วิกฤตซ้อนวิกฤต และได้มีการเยียวยาทุกกลุ่มอาชีพเพื่อให้ได้รับประโยชน์ทั้งหมด 50 ล้านคน และเรื่องการเกษตรถึงแม้จะมีราคาที่แพง แต่รัฐบาลได้ประกันรายได้เกษตรกร และเดินหน้าแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ และวันนี้ได้ให้โอกาสฝ่ายค้านทำหน้าที่เต็มที่

ชินวรณ์ กล่าวต่ออีกว่า หากยึดตัวเลขฝ่ายค้านที่มี 224 เสียง ฝ่ายรัฐบาล 253 เสียง การลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือเกิน 239 เสียง ดังนั้นในส่วนตัวเลขมีความมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถมีความเป็นเอกภาพ ต้องดูว่าประเด็นที่ได้อภิปรายมีผลกระทบต่อการเมืองหรือไม่ เพราะหลายครั้งที่อภิปรายมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในรัฐบาล ก็คงต้องรอดูว่าฝ่ายค้านจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ในข้อมูลการอภิปราย หรือบิ๊กเซอร์ไพรส์ในส่วนการลงมติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จะลงเสียงตามมติของพรรคใช่หรือไม่ ชินวรณ์ กล่าวว่า มั่นใจว่าจะทำตามมติของวิปรัฐบาล และพรรค ส่วนบางท่านมีความเห็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง ใครลงมติไว้อย่างไรต้องรับผิดชอบเอง และขอให้ระมัดระวัง เพราะลงมติไปแล้วมันเผยแพร่ผ่านสื่อ ใครลงแบบใดอาจถูกกล่าวหาว่ารับกล้วย และมีอคติเป็นสำคัญ 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จากกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์เสียงแตก คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อการลงมติหรือไม่ ชินวรณ์ ตอบว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร เพราะหัวหน้าพรรคชี้แจงในที่ประชุมแล้ว ตนก็ยอมรับในประชาธิปไตยว่า การแสดงความเห็นมีความหลากหลาย เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมือง มีวัฒนธรรมไม่ได้มีใครเป็นเจ้าของ