วันที่ 19 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุม กกต. มีมติรับรอง ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวน 400 คน และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน โดยผลการตรวจสอบเบื้องต้นชี้ว่า การเลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม 

พร้อมทั้งประกาศให้ผู้สมัคร ส.ส. ที่ได้รับการเลือกตั้งมารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ได้ที่ห้องประชุม 201 สำนักงาน กกต. ในวันที่ 20-24 มิ.ย. เวลา 08.30 - 16.30 น. 

ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง กำหนดให้มีการเปิดประชุมสมัยรัฐสภาหลังประกาศผลการเลือกตั้งไม่เกิน 15 วัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 3 ก.ค. โดยถือเป็นการเปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ซึ่งพระมหากษัตริย์ต้องเสด็จพระราชดำเนินมาทรงทำรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งแรกด้วยพระองค์เอง 

หากเทียบกับไทม์ไลน์การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. 2562 จะพบว่า กกต.ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 8 พ.ค. 2562 หรือ 45 วันหลังจากวันเลือกตั้ง และมีการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาครั้งแรกในวันที่ 24 พ.ค. 2562 นับเป็นจำนวน 61 วันหลังจากวันเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่การประกาศรับรองครั้งนี้ อาจเป็นการรับรอง ส.ส. ไปก่อน จากนั้นจึงค่อยนำเรื่องร้องเรียนมาพิจารณา เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดไม่สามารถตรวจสอบเรื่องร้องเรียนได้ทันภายใน 60 วัน 

ทั้งนี้ภายหลังการรับรองสมาชิกภาพ ส.ส. จะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กรณีการถือหุ้นไอทีวีเลยหรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต.ระบุว่าเรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนข้อของสำนักงาน กกต. จึงยังไม่เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมเเ ซึ่งต้องดูว่าข้อกฎหมายจะเปิดช่องให้ดำเนินการได้แค่ไหน อย่างไร ซึ่งตอนนี้การพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จ 

ส่วนกระบวนการจะต้องเร่งให้แล้วเสร็จก่อนโหวตนายกหรือไม่ เลขากกต.ย้ำว่าเราไม่สนใจเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของกระบวนการการทำงาน ต้องได้ข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความ ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าจะมีความรวดเร็วก็เกิดขึ้นกับการทำงาน ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด

แสวง ยังกล่าวถึงข้อร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้งในหลายเขต ว่าขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างที่สำนักงานกำลังพิจารณา ซึ่งมีกรอบระยะเวลาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี แต่ที่ต้องประกาศ 400 เขตไปก่อนเพราะมองว่ากระบวนการพิจารณา สืบสวนไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จภายในระยะ เวลา 60 วันตามที่กฎหมายกำหนดได้ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่จะได้มีโอกาสแก้ต่างให้กับตัวเอง จึงได้ประกาศผลไปก่อนโดยไม่ตัดอำนาจการตรวจสอบของ กกต.