จากรณีที่ ปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก และ ณะ-ณรงค์ เลิศกิตศิริ ผู้บริหาร ทีพีเอ็น โกลบอล และผู้ถือลิขสิทธิ์ การประกวด มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ พร้อมด้วย อั้ม-จรีลักษณ์ จันทร์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ดอม เอเชีย จำกัด และ บริษัท Dr.Rebron Laboratory จำกัด ผู้สนับสนุนกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020 อีกทั้งเป็นทีมบริหารจัดการงานด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ การประกวด มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020 ออกมาเปิดเผย กรณีมีผู้จัดการของผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020 ที่ผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้าย เข้ามาเป็นทีมงานประชาสัมพันธ์ เป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณ เป็นความไม่ยุติธรรมกับผู้เข้าประกวดอีก 29 คน
ความคืบหน้าเรื่องนี้ จรีลักษณ์ จันทร์สุวรรณ ซึ่งเป็นคนแรก ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ตีแผ่เรื่องนี้ เปิดเผยกับ ‘วอยซ์ออนไลน์’ ว่า หลังจาก เรื่องที่กำลังเป็นประเด็นดรามาแดงออกมา ทางกองประกวดได้ให้ผู้จัดการผู้เข้าประกวดคนดังกล่าว พ้นจากการเป็นทีมทำงานของการประกวดฯ ทันที ส่วนนางงามผู้เข้าประกวดตามที่มีข่าวเปิดเผยมาบ้างแล้ว คือ เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ MUT 82 ยังให้โอกาสแสดงสปิริต ถอนตัวจากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020 แต่จนถึงขณะนี้ (เช้าวันที่ 27 ก.ย.) ทางนางงามยังไม่ได้แจ้ง หรือ มีจดหมายส่งเข้ามายังกองประกวด
“ที่พี่ปุ้ยไลฟ์สดอัพเดท น้องผู้เข้าประกวดให้พิจารณาตัวเอง ก็คือไม่ให้ไปต่อ ซึ่งที่ผ่านมาน้องเขาไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมกับประกวด 2 วัน เมื่อวันศุกร์ (25 ก.ย.) ขอลาไปพบหมอตา ซึ่งทางกองประกวดแนะนำว่า ถ้ายังไม่หายดี ก็ควรพักรักษาตัวให้หายก่อนได้”
เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ เป็นผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020 ที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ ตั้งแต่แสดงความคิดเห็น แบบไม่กลัวคำถาม ในรอบคัดเลือก นอกจากพูดได้ตรงประเด็นแล้ว ยังโดนใจผู้ฟัง ถูกยกให้เป็น 1 ในนางงามตัวเต็ง ที่จะคว้ามงกุฏ
การออกมาตีแผ่เรื่องนี้ให้สาธารณชนรับทราบ จรีลักษณ์ ยืนยันว่า เพราะต้องการให้การประกวดดำเนินไปอย่างขาวสะอาด ไม่ได้มีเจตนาสกัดเส้นทางไปสู่ความสำเร็จบนเวทีประกวดของใคร อีกทั้งยังเห็นว่า เมื่อการประกวดเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ที่ได้ดำรงตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020 ควรไปต่อได้อย่างสง่างาม
ผู้เข้าประกวดมีผู้จัดการได้ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ขอให้เปิดเผย ไม่ใช่ปกปิดแล้วเข้ามาแฝงตัวทำงานอยู่ในกองประกวด ที่ผ่านมากองประกวดได้สัมภาษณ์ผู้เข้าประกวดพร้อมผู้ปกครอง ผู้เข้าประกวดส่วนหนึ่งมากับบิดา และมารดา ในขณะที่ผู้เข้าประกวดอีกส่วนหนึ่งก็เลือกที่จะให้ผู้จัดการเป็นผู้ปกครอง อย่างเปิดเผย
“หลายคนบอกว่าทำไมผู้บริหารกองประกวด ไม่เก็บเรื่องนี้ไว้เงียบๆ แล้วจัดการประกวดต่อไป เป็นเพราะว่าเราอยากให้มันแฟร์ กับกองประกวดและตัวนางงามเองด้วย ถ้าปล่อยไปถึงรอบพรีลิมฯ รอบตัดสิน แล้วปัดตกรอบ ใครถูกวิจารณ์ อยากบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีใครได้รับผลพอใจ 100 เปอร์เซ็นต์ กองประกวดก็เสียหาย น้องก็เสียหาย ถ้าไม่ด่ากอง ก็ต้องไปขุดข่าวไปล่วงละเมิดสิทธิ์ของน้องอีกใช่หรือไม่”
ส่วนที่มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า ผู้เข้าประะกวดบางคนติดสัญญา เมื่อผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ต้องเซ็นสัญญากับกองประกวด อาจมีปัญหาตามมาอีกได้ จรีลักษณ์ ชี้แจงว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับกองประกวดอย่างแน่นอน
“ในการสัมภาษณ์ผู้เข้าประกวดเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติที่เหมาะสม หลายคนมีสัญญาติดตัว แต่ในสัญญาที่เซ็นกับกองประกวด มีอยู่ข้อหนึ่งระบุไว้ว่า สัญญาเดิมจะเป็นโมฆะ ซึ่งผู้เข้าประกวดทุกคนได้เซ็นรับทราบแล้ว กองประกวดไม่ได้ปิดกั้นโอกาสผู้มีสัญญา และเมื่อเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้เซ็นสัญญาร่วมงานกับกอง มีรายได้ คุณจะนำรายได้ไปแบ่งกับใครนั้นเป็นสิทธิ์ของคุณ กองไม่เข้าไปก้าวก่าย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :