วันที่ 10 เม.ย. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคพท. แถลงว่า จากรายงานตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตโควิด-19 วันเดียวกันนี้ (10 เม.ย. 65) ซึ่งสูงถึง 108 ราย เป็นตัวเลขนิวไฮ ดังนั้น มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บริหารประเทศต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะบ้านเมืองพังพินาศทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ประชาชนเดือดร้อน ยอดคนเสียชีวิตโควิดมากกว่าสงครามรัสเซียและยูเครนแล้ว และขอประกาศว่าพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151
"เปิดประชุมสภาฯ รัฐบาลเจอแน่ เราจะฉายหนังให้คุณดู เตรียมตอบได้เลย เราต้องรีบไล่พล.อ.ประยุทธ์ ออกโดยเร็ว โดยประเด็นที่จะไล่พล.อ.ประยุทธ์ คือ เรื่องเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ การสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ รถไฟฟ้าสายสีเขียว และการแก้โควิดที่ล้มเหลว ประเด็นเหล่านี้พรรคพร้อมล้มพล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว เตรียมเจอในสภาฯได้เลย" ยุทธพงศ์กล่าว
ยุทธพงศ์ ยังระบุความคืบหน้าการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ว่า นอกจากเรือดำน้ำจากจีนที่ไม่มีเครื่องยนต์ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาอยู่นั้น ขณะนี้ในส่วนของท่าจอดเรือดำน้ำ ที่ดำเนินการสร้างภายในฐานทัพเรือสัตหีบ ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ทั้งที่ของบไปแล้วเมื่อปี 2563 – 2564 โดยได้งบประมาณไป 900 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในสัญญาการก่อสร้างระบุว่ากองทัพเรือเป็นคู่สัญญากับบริษัท CSOC จากประเทศจีน แต่เมื่อถึงเวลาทำงานจริงกลับเป็นบริษัท แสงเจริญมารีนเซอร์วิส จำกัด ที่เข้ามาดำเนินการขุด ซึ่งผิดเงื่อนไขในสัญญา จึงฝากไปถึง พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เนื่องจากพื้นที่กองทัพเรือเป็นพื้นที่เฉพาะ ใครเป็นผู้อนุญาตให้บริษัท แสงเจริญฯ เข้าออกพื้นที่ ถ้ากองทัพเรือไม่จัดการ ตนจะจัดการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงเปิดสมัยประชุมสภานี้แน่นอน ซึ่งพรรคมีพร้อมอย่างมาก