นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งความ นางสาวณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตย และนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ดำเนินรายการของสถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวี กับพวก ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยระบุข้อความดังนี้
กกต. เป็นองค์กรอิสระมีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และถือเป็นบุคคลสาธารณะเพราะกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน จึงย่อมจะถูกวิพากษ์วิจารณ์การทำงานจากประชาชนได้เสมอ
การจัดการเลือกตั้งของ กกต. มีปัญหาทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจมาแต่ต้น หลักฐานสำคัญคือความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของ กกต. จนต้องนำไปสู่การจัดการเลือกตั้งใหม่ตามที่เป็นข่าว ไม่ว่าจะเป็นการสั่งนับคะแนนใหม่ หรือจำนวนบัตรที่ถูกใช้ไม่ตรงกับผลการนับคะแนน หรือคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าจากนิวซีแลนด์ต้องที่เสียไป หรือการไม่ยอมเปิดเผยคะแนนดิบของแต่ละหน่วยที่ประชาชนเรียกร้อง หรือวิธีการคำนวณคะแนนของ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อที่มีความสับสน เป็นต้น ทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของ กกต.
ดังนั้น การที่มีผู้เห็นว่าการทำงานของ กกต. บกพร่องจึงรณรงค์ให้ประชาชนเข้าชื่อกันเพื่อถอดถอน การรณรงค์ดังกล่าวถือเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม เพื่อความชอบธรรม เป็นการป้องกันส่วนได้เสียของตนตามคลองธรรมตามวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ อันเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 34 ทั้งผู้รณรงค์และผู้ลงชื่อจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329
นายวัฒนา ระบุด้วยว่า การที่มีประชาชนมาร่วมกันเข้าชื่อถึงเกือบหนึ่งล้านคนย่อมเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า การทำงานของ กกต. น่าจะมีปัญหาจริง กกต. จึงควรพิจารณาตนเองและแก้ไขสิ่งบกพร่องให้ดีขึ้นไม่ใช่มาแจ้งความดำเนินคดีกับประชาชน การกระทำของ กกต. นอกจากจะไม่รู้คุณเจ้าของภาษีแล้วยังเป็นการแว้งกัดประชาชน เพราะการเอาการกระทำที่ไม่เป็นความผิดมาแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่ามีการกระทำผิด ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 และ 174
"ประชาชนที่ถูก กกต. แจ้งความจึงควรให้บทเรียนกับ กกต. บ้าง แต่ไม่ต้องไปแจ้งความให้เสียเวลาควรใช้ทนายฟ้อง กกต. ต่อศาลเลย จะได้พิสูจน์กันว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศนี้ยังเป็นที่พึ่งของประชาชนได้หรือไม่" นายวัฒนา ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :