วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงแนวทางการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งสมัยหน้า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การนับวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นได้ถึงปี 2568 ว่า การเสนอชื่อคนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งรอบหน้าเชื่อว่าจะเสนอรายชื่อให้ครบทั้ง 3 คน ไม่เสนอแค่คนเดียว จะเสนอชื่อทั้งพล.อ. ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อีกคนกำลังพิจารณาอยู่ เพราะทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ต่างเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนจำนวนมาก ต้องดึงคะแนนนิยมแต่ละคนมาช่วยทำคะแนนให้พรรค แม้จะบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์มีคนไม่ชอบเยอะ แต่ก็มีแฟนประจำเยอะพอสมควร ส่วนการหาเสียง ถ้าชาวบ้านถามว่าจะเสนอใครเป็นนายกฯจะบอกว่า อยู่ใน 3คนที่เสนอชื่อมา พรรคเพื่อไทยรอบที่แล้วก็เสนอชื่อ 3 คน ก็ไม่มีใครถามจะเอาใครเป็นนายกฯ
วีระกร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเมื่อถึงตอนเสนอชื่อนายกฯ เพื่อโหวตในสภาฯนั้น คงต้องเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร เพราะพล.อ. ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อได้แค่ 2 ปี อาจให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นรองนายกฯ หรือ รมว. กลาโหม ยืนยันการเลือกตั้งรอบหน้า “3 ป.” ยังไปด้วยกัน เพราะพล.อ.ประยุทธ์เล่นการเมืองไม่เป็น คนเล่นการเมืองคือ พล.อ.ประวิตรคนเดียว ส่วนพล.อ.ประยุทธ์เป็นฝ่ายบริหาร ไม่เล่นการเมือง ไม่สุงสิงกับ ส.ส. ปราศรัยไม่เป็น พรรครวมไทยสร้างชาติที่คิดว่าพล.อ.ประยุทธ์จะมาอยู่ด้วย คงจะแห้ว พล.อ.ประยุทธ์ไม่มาร่วมหัวจมท้ายด้วยแน่ เพราะเป็นนายกฯได้อีกแค่ 2ปี จะมาชูพล อ.ประยุทธ์ได้อย่างไร
“สมัยหน้าเป็นรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะมี ส.ว. มาช่วยสนับสนุน ดังนั้นต้องดันลุงป้อมเป็นนายกฯ ส่วนลุงตู่ไปเป็นรองนายกฯ หรือรมว.กลาโหม หรือโยกเป็นรมว.มหาดไทยก็ได้ ถึงลุงตู่เคยเป็นนายกฯ มาแล้ว จะมาเป็นรองนายกฯ ก็ไม่เป็นไร เพราะ 3 คนพี่น้องแน่นเฟ้นกันเหนียวแน่น มองบ้านเมืองเป็นหลัก”วีระกร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อได้อีก 2ปี จะมี ส.ส. อยู่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐมากขึ้นหรือไม่ วีระกรตอบว่า มั่นใจพรรคพลังประชารัฐยังมีโอกาสสูงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเที่ยวหน้า เพราะมี ส.ว. 250 คน สนับสนุนการโหวต จึงมีแรงดึงดูดให้ ส.ส. อยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไป ส่วนการปรับครม. ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่มีใครปรับ เพราะคนที่ไม่ได้ก็ไม่พอใจ ยังดีที่พรรคพลังประช่รัฐส่วนใหญ่เป็นเด็กรุ่นใหม่ ยังไม่เขี้ยวที่จะมาบีบบังคับกดดันกัน