วันที่ 15 ก.พ. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา จะเป็นการจุดกระแสหรือไม่ ว่า ตนไม่เป็นกังวล พร้อมยืนยันว่า จะให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ ในการทำหน้าที่ตามกฎหมายด้วยความละมุนละม่อม
ขณะเดียวกันต้องฝากเตือนไปยังผู้ที่ก่อเหตุ เนื่องจากมีพยานตามพยานหลักฐานเยอะแยะ มีทั้งกล้องอะไรก็ออกมาชัดเจน จึงขอให้มีการนำเสนอข่าวสารอย่างรอบด้าน และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนระมัดระวัง พร้อมกับระบุว่าเจ้าหน้าที่มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน หากใช้ความรุนแรงตอบโต้กันไปมา ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น ไม่มีผลดีต่อประชาชนและประเทศชาติ
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่การทำร้าย แพทย์อาสาของกลุ่มชุมนุมนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องพิสูจน์ทราบว่าใช่เจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการสอบสวนอยู่ ขออย่าบิดเบือน หรือฟังความด้านเดียว ทุกคนต้องเคารพกฎหมายทั้งหมด
เตือนอย่าเพิ่มขัดแย้ง วอนฟังซักฟอกดีกว่าประท้วง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเคลื่อนไหวในทางปกระดม ปลุกปั่น ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศชาติในเวลานี้ เพราะประเทศชาติมีปัญหาอยู่ทั้งโควิค ในการแก้ไขปัญหาต่างๆมากมายตนคิดว่าไม่ควรเพิ่มความขัดแย้งให้มากยิ่งขึ้น การอภิปรายเป็นเรื่องของรัฐสภาและรัฐบาลมีหน้าที่ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอให้รอฟังอยู่ที่บ้านดีกว่ามาประท้วง ซึ่งทุกคนทราบดีแล้วว่าจุดมุ่งหมายของการชุมนุมนั้นคืออะไร
ส่วนกรณีมีรายงานว่ากลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยต่อต้านรัฐประหารเมียนมาในไทยแฝงตัวร่วมชุมนุมกับกลุ่มราษฎรนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนขอเตือนว่าให้ใช้ความระมัดระวังให้มากที่สุด ในฐานะมิตรประเทศ ในฐานะอาเซียน ต้องระมัดระวังในทุกมิติ ทุกประเด็น ขอให้รับฟังความคิดเห็นจากหลายแหล่ง แต่จะดำเนินการได้มากน้อยเพียงใดอย่างไร
ส่วนกรณีที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ยื่นร้องคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายกรัฐมนตรีไม่แจ้งมีจักรยานไว้ในครอบครอง ว่า ตนจำได้ว่าตนแจ้งไปแล้วมีอยู่ 2 คันที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง