ต่างประเทศ
วากเนอร์หมดความสำคัญแล้ว สหรัฐฯ ชี้หมดบทบาทในสงครามยูเครน
มีการคาดการณ์ว่าวากเนอร์มีส่วนช่วย ให้รัสเซียสามารถผนวกไครเมียของยูเครนไปได้ในปี 2557 และกองกำลังทหารรับจ้างดังกล่าว เคยต่อสู้ในการสู้รบที่นองเลือดที่สุดบนแผ่นดินยูเครน วากเนอร์ยังมีบทบาทสำคัญในการยึดเมืองบักห์มุตทางตะวันออกของยูเครนโดยรัสเซียด้วย
ภายใต้ข้อตกลงที่ทำให้การก่อกบฏวากเนอร์ยุติลงในเดือน มิ.ย. นักรบของวากเนอร์ได้รับแจ้งว่าพวกเขาสามารถเข้าประจำการในกองทัพรัสเซีย หรือมุ่งหน้าไปยังเบลารุสพร้อมกับ เยฟเกนี ปริโกชิน หัวหน้าของวากเนอร์ อย่างไรก็ดี เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ทางการรัสเซียกล่าวว่าปูตินได้พบกับปริโกชินในกรุงมอสโก เพียงไม่กี่วันหลังจากเหตุการณ์กบฏ
จากบทสัมภาษณ์ในคอมเมอร์ซานต์ หนังสือพิมพ์รายวันของรัสเซีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 ก.ค.) ปูตินกล่าวยืนยันว่า เขาได้เสนอข้อเสนอที่ชัดเจนต่อวากเนอร์ในระหว่างการหารือกันในครั้งนั้น ปูตินยังกล่าวว่ากองกำลังวากเนอร์สามารถเลือกที่จะ "รับราชการต่อไป" ในกองทัพประจำการของรัสเซียแทน
“พวกเขาจะได้รับบัญชาการโดยบุคคลที่เคยเป็นผู้บัญชาการที่แท้จริงของพวกเขาตลอดเวลานั้น” ปูตินกล่าวต่อโดยอ้างถึงตัวเขาเองอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ปูตินยังเน้นย้ำว่า รัสเซียไม่มีกรอบทางกฎหมายสำหรับองค์กรทางทหารเอกชน ประธานาธิบดีรัสเซียยังพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "วากเนอร์ไม่มีอยู่แล้ว"
ก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวในการแถลงข่าวที่ฟินแลนด์ว่า ปริโกชินควรระวังที่จะถูกวางยาพิษ หลังจากเหตุการณ์ก่อกบฏจบลง “พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาจะทำอะไร เราไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ที่ไหนและมีความสัมพันธ์อย่างไร (กับปูติน) ถ้าผมเป็นเขา ผมจะระวังสิ่งที่ผมกิน ผมจะคอยดูในอาหารจานของผม” ไบเดนกล่าว
หลังจากการประชุมสุดยอดกับผู้นำกลุ่มนอร์ดิก ณ กรุงเฮลซิงกิ ของฟินแลนด์ ไบเดนยังกล่าวอีกว่า มันไม่มีความเป็นไปได้ที่ปูตินจะชนะสงครามในยูเครน “เขาแพ้สงครามครั้งนั้นแล้ว” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว
ไบเดนชี้ว่าในที่สุดประธานาธิบดีรัสเซียจะ "ตัดสินใจว่า มันไม่ใช่ผลประโยชน์ของรัสเซีย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือกรณีอื่น ที่จะดำเนินการทำสงครามนี้ต่อไป แต่ผมไม่สามารถคาดเดาได้แน่ชัดว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร" นอกจากนี้ ไบเดนยังแสดง "ความหวังและความคาดหวัง" ว่ายูเครนจะมีความคืบหน้าเพียงพอ ในการยกทัพรุกตอบโต้การรุกรานของรัสเซีย ณ ปัจจุบันนี้ เพื่อให้มีการเจรจาหาข้อตกลงด้านสันติภาพได้
อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลากว่า 1 เดือนของการรุกตอบโต้โดยยูเครนที่วางแผนมาอย่างยาวนาน เจ้าหน้าที่ยูเครนบางส่วน และพันธมิตรกำลังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าที่ล่าช้าของกองทหารยูเครน โดยบางฝ่ายเชื่อว่าการป้องกันของรัสเซียจะพังทลายลงในที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้ยูเครนสามารถยึดดินแดนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ และรุกคืบไปยังแหลมไครเมียที่รัสเซียยึดไปได้
ยูเครนได้ขอให้พันธมิตรตะวันตกให้ความช่วยเหลือทางทหารมากขึ้น เพื่อช่วยต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย แม้ว่าจะไม่ได้รับกรอบเวลาที่ชัดเจน สำหรับการเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในการประชุมสุดยอดครั้งล่าสุดในลิทัวเนีย อย่างไรก็ดี ยูเครนได้รับกรอบความปลอดภัยระยะยาวจากสมาชิกกลุ่ม G7 เพื่อช่วยป้องกันการรุกรานของรัสเซีย
ที่มา:
