วัคซีนจาก บริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ล็อตแรก จำนวน 200,000 โดส น้ำหนัก 2.6 ตัน ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยถูกขนส่งโดยการบินไทย TG675 เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพฯ ทำการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส A350-900 ออกเดินทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 24 ก.พ.64 เวลา 05.50 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามกำหนดการในเวลา 10.05 น. ที่คลังสินค้าการบินไทย
โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมบุคลากรทางแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับมอบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงตู้ควบคุมอุณหภูมิบรรจุวัคซีนออกจากเครื่อง และลำเลียงตู้ควบคุมอุณหภูมิบรรจุวัคซีนขึ้นรถขนส่งไปจัดเก็บยังคลังสำรองวัคซีนโควิด-19 องค์การเภสัชกรรม (คลังศรีเพชร DKSH) บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อรักษาอุณหภูมิและคงคุณภาพ
ขณะเดียวกัน วันนี้ วัคซีนจากแอสตราเซเนกา จำนวน 117,000 โดส จะส่งมาถึงไทยเช่นกัน
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลจีน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้ไทยได้รับวัคซีนเป็นล็อตแรก ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของพวกเรา หลังจากนี้จะดำเนินการตามแผนกระจายฉีดวัคซีน โดยจะเริ่มสามารถฉีดได้ในเดือนมีนาคม พร้อมกันนี้ ยังขอบคุณหน่วยงานส่วนราชการที่ช่วยแก้ปัญหาให้ไปเป็นตามขั้นตอนของไทย โดยไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้ แน่นอนการทำงานเพื่อคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศหลายล้านคน ย่อมมีปัญหา ต้องช่วยกันแก้ไขเพื่อความเข้าใจ พร้อมขอบคุณประเทศจีน ที่มาส่งวัคซีนล็อตแรกให้กับไทยในเดือนนี้ และจะได้ล็อตต่อไปตามแผนงาน
สำหรับการฉีดจะเป็นไปตามแผนงาน โดยจะเน้นพื้นที่และกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง ยืนยัน วัคซีนได้มีการทดสอบคุณภาพมาแล้ว แต่จะต้องมีการดูแลเรื่องการขนย้ายด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า เป็นข่าวดี ที่วันนี้ไทยได้รับวัคซีนแอสตราเซเนก้า จึงไม่อยากให้นำปัญหาวัคซีนมาเป็นปัญหาความขัดแย้งกัน แต่อยากให้มีความเป็นหนึ่งเดียวในการแก้ปัญหา พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญ ในการเอาใจใส่ กับสิ่งที่รัฐบาลไทยได้ประสานไว้
ส่วนเรื่องที่ภาคเอกชนจะนำวัคซีนเข้ามาเอง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายร่วมสร้างรอยยิ้ม รวมกันแก้ปัญหา ร่วมไทยสร้างชาติ และร่วมมือกันทำให้อาเซียนปลอดภัยจากโควิด และถึงแม้จะได้รับวัคซีน อย่าลืมที่จะป้องกันตนเอง ด้วยการสวมใส่หน้ากาก ตามมาตรการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข
ด้านอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจ ในความร่วมมือระหว่างจีนและไทย ที่ทำให้สามารถขนส่งวัคซีนล็อตแรกจากจีนมาถึงไทยได้สำเร็จ ซึ่งเป็นประเทศแรกในอาเซียน ขณะที่ล็อตต่อๆ ไปจะทยอยส่งมาตามกำหนด
ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่มีมาช้านาน และสร้างอนาคตร่วมกัน โดยเชื่อมั่นว่าวัคซีนจะช่วยให้ประชาชนปลอดภัยจากโควิด-19 พร้อมขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ทั้งของไทยและจีน ที่ทำให้การขนส่งครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี ซึ่งจากความร่วมมือนี้จะทำให้สามารถเอาชนะโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างรอยยิ้มให้คืนสู่ชาวไทยได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง