ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มกว่า 600 รายการ รวมถึงถั่วเหลือง วิสกี้ ซิการ์ ตอบโต้ที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์

กระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงข่าวว่า รัฐบาลจีนเห็นชอบมาตรการขึ้นภาษีร้อยละ 25 แก่สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ รวม 659 รายการ โดยจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ก.ค. เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเมื่อวันศุกร์ (15 มิ.ย.) ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้จีนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบโต้ด้วยมาตรการแบบเดียวกัน

สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ที่จะถูกเก็บภาษีเพิ่มโดยรัฐบาลจีน รวมถึงสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์อาหารทะเล และรถยนต์อิเล็กทรอนิกส์ แต่สินค้าที่จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งจะถูกเก็บภาษีเพิ่ม ได้แก่ ถั่วเหลือง วิสกี้ และซิการ์

นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจมองว่าการประกาศสงครามการค้าและการใช้วิธีตอบโต้แบบ 'ตาต่อตา' ไม่เป็นผลดีใดๆ กับเศรษฐกิจโลก เพราะถึงแม้ว่าสหรัฐฯ และจีนจะพยายามตอบโต้โดยวิธีที่ประเทศตนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด แต่ก็ยังจะส่งผลต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ ของทั้งสองประเทศ และจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว

จูลี บิชอป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การประกาศนโยบายขึ้นภาษีตอบโต้ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจและการค้าในทุกภูมิภาคทั่วโลก และรัฐบาลออสเตรเลียจะเฝ้าจับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศนโยบาย 'อเมริกาต้องมาก่อน' และประกาศตั้งกำแพงภาษีสินค้าหลายรายการ โดยอ้างว่าเป็นการแก้ปัญหาขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ แต่หลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) และภาคีความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ต่างก็คัดค้านนโยบายดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก (WTO) และเป็นภัยคุกคามทางการค้า

นอกเหนือจากประเทศแถบยุโรปและอเมริกา หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการภาษีสินค้าต่างๆ เช่นกัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียม 

ที่มา: Aljazeera/ Guardian/ Market Watch/ USA Today/ Xinhua

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: