ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีพาณิชย์และการคลังของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูและแคนาดาได้ข่มขู่นายสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ระหว่างการประชุมที่รีสอร์ทวิสท์เลอร์ของแคนาดาว่า อียูและแคนาดาจะตอบโต้มาตรการตั้งกำแพงภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยนายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของฝรั่งเศสเตือนว่า สงครามการค้าอาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ หากสหรัฐฯ ยังเดินหน้าตั้งกำแพงภาษีต่อไป
ด้านนายมนูชินปฏิเสธว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ละทิ้งบทบาทการเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจโลกและเขาได้แจ้งให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับรู้ถึงความรู้สึิกของประเทศอื่นๆ แล้ว
หลังการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมไม่ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันแต่อย่างใด นายคริส บัคเลอร์ ผู้สื่อข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านอเมริการเหนือของสำนักข่าวบีบีซีได้ตั้งข้อสังเกตว่า การไม่ออกแถลงการณ์ร่วมกันเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงการไม่ลงรอยกันได้ชัดเจน และการถกเถียงกันเรื่องกำแพงภาษีนี้ก็น่าจะดุเดือดอีกครั้งในสัปดาห์หน้าที่ผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี7 ไปพบกันที่รัฐควิเบกของแคนาดา ซึ่งจะมีนายทรัมป์ไปร่วมประชุมด้วย
ขณะที่นายทรัมป์ ได้ยืนยันผ่านทวิตเตอร์ของตัวเองว่า สหรัฐฯ ถูกขูดรีดจากประเทศอื่นมานานหลายปีแล้ว การตั้งกำแพงภาษีจะช่วยปกป้องผู้ผลิตเหล็กของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นสินค้าที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประชาติ นอกจากนี้ เขายังวิจารณ์ว่าบริษัทอเมริกันก็เผชิญกับการกีดกันทางการค้าในยุโรปและประเทศอื่นๆ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา นายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ประกาศว่า จะเก็บภาษีการนำเข้าเหล็กร้อยละ 25 และภาษีนำเข้าอลูมิเนียมร้อยละ 10 โดยจะมีผลในวันที่ 1 มิ.ย. เนื่องจากการหารือกับอียู แคนาดาและเม็กซิโกไม่ค่อยมีความคืบหน้าใดๆ
ในปี 2017 แคนาดา เม็กซิโกและอียูส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปยังสหรัฐฯ รวมกันเป็นมูลค่าถึง 23,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้โทรหานายทรัมป์ โดยระบุว่า กำแพงภาษีของสหรัฐฯ ผิดกฎหมาย แต่นายทรัมป์ตอบว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องปรับดุลการค้ากับอียู
ส่วนนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุว่า กำแพงภาษีของสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และแคนาดาเตรียมเก็บภาษีร้อยละ 25 จากสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ที่มีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงเหล็ก โยเกิร์ต วิสกี้ และกาแฟ
ขณะเดียวกันนายพอล ไรอัน ประธานสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันเองก็แสดงความเห็นว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการตั้งกำแพงภาษีกับประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ทั้งที่ควรจะร่วมมือกันกดดันการค้าที่ไม่เป็นธรรมของประเทศอย่างจีนมากกว่า
ที่มา: BBC