ที่ผ่านมา โรงภาพยนตร์เป็นเหมือนสถานที่ต้องห้ามของเด็กๆ เพราะด้วยช่วงวัยกำลังซน เด็กส่วนใหญ่จึงอยู่นิ่งๆ นานๆ ท่ามกลางเสียงอึกทึกในห้องมืดไม่ค่อยได้ ทำให้ผู้ปกครองหลายคนเลือกจบปัญหาด้วยการไม่พาลูกตัวเองเข้าไปรบกวนคนอื่นที่เสียสตางค์มาเสพอรรถรสความบันเทิง หรือถ้าเป็นการ์ตูนเรื่องดังที่ครอบครัวอยากเปลี่ยนบรรยากาศจริงๆ คุณพ่อคุณแม่ก็คงต้องทำการบ้านกันให้ละเอียดสักหน่อย ก่อนควงกันออกไปชมภาพยนตร์ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นว่าลูกของคุณจะไม่พูดคุย ไม่ลุกยืน และไม่ถีบเบาะ
อย่างไรก็ตาม ความกังวลใจดังกล่าวกำลังหมดไป หลังจากทางเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์เริ่มเปิดบริการ ‘โรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก’ โดยยอมลดจำนวนเก้าอี้ชมภาพยนตร์แบบเดิมๆ ลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้เด็กๆ ได้รับชมภาพยนตร์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ขณะเดียวกันก็เป็นการใช้เวลาในโลกใบเล็กๆ ที่อัดแน่นด้วยจินตนาการ และเปิดรับการเรียนรู้รูปแบบใหม่ๆ ด้วย
‘โรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก’ ประเดิมสาขาแรกที่เมกะซีนีเพล็กซ์บางนา ภายในสร้างบรรยากาศสดใสไม่มืดสนิท ตกแต่งด้วยบ่อลูกบอล สไลเดอร์ และเก้าอี้สีลูกกวาดจำนวน 84 ที่นั่ง ส่วนตารางการฉายภาพยนตร์ถูกกำหนดให้เหมาะกับกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีลูกอายุระหว่าง 5-12 ปี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากค่ายภาพยนตร์ต่างๆ ที่พร้อมจะส่งภาพยนตร์เด็กเข้าฉายหลากหลายแนว อาทิ แอนิเมชั่น, การ์ตูน, ผจญภัย เป็นต้น
ส่วนเหตุผลที่เลือกเปิดในย่านบางนา นิธิ พัฒนภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางนาเป็นย่านที่พักอาศัย หมู่บ้าน มากกว่า 290 แห่ง และสถานศึกษาในระดับประถมศึกษาตอนต้น โรงเรียนนานาชาติอีกกว่า 31 แห่ง
การเปิดโรงภาพยนตร์เด็กนับเป็นการรองรับความต้องการของกลุ่มพ่อแม่รุ่นใหม่ที่นิยมพาลูกๆ ไปสัมผัสประสบการณ์นอกห้องเรียน ซึ่งภาพยนตร์ก็นับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่พ่อแม่อยากให้ลูกๆ ได้เรียนรู้ แต่ที่ผ่านมาอาจติดปัญหาเรื่องการเข้าชมในโรงภาพยนตร์ปกติที่อาจไม่เอื้ออำนวย และยังไม่มีภาพยนตร์เฉพาะสำหรับเด็ก จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกๆ ได้แบบเฉพาะกลุ่ม
“โรงภาพยนตร์เด็กการเปิดตลาดไปสู่การสร้างทางเลือกใหม่ในการใช้โรงภาพยนตร์ทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกันภายในครอบครัว และเวิร์กช็อปที่หลากหลาย รวมทั้งเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของเด็กๆ และผู้ปกครอง เพื่อแลกเปลี่ยน และเพิ่มทักษะการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” นิธิ กล่าว
ที่สำคัญคือ โรงภาพยนตร์เด็กยังสามารถใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำหรับเด็กๆ ซึ่งสามารถช่วยปูพื้นฐานพฤติกรรมของเด็กให้เลือกทำกิจกรรม และใช้เวลาว่างไปในทางที่เหมาะสม อาทิ กิจกรรมประกวดร้องเพลง เต้น เครื่องแต่งกาย วาดภาพ ระบายสี แฟชั่นโชว์ ซึ่งจะให้ทั้งความสนุก และสนับสนุนพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กได้อีกด้วย
สนนราคาบัตรชมภาพยนตร์เริ่มต้นที่ 200 บาท สำหรับเก้าอี้ปกติ ส่วนเก้าอี้ฮันนีมูน 220 บาท โซฟาเดี่ยว 250 บาท และโซฟาคู่ 500 บาท ส่วนรอบฉายวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ ฉายวันละ 4 รอบ ระหว่างเวลา 11.00-19.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 5 รอบ ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น.
สำหรับภาพยนตร์เด็กที่จะเข้าฉายในปี 2561 มีประมาณ 20 เรื่อง อาทิ Sherlock Gnomes, Jurassic World : Fallen Kingdom, Incredibles 2, Ant Man and The Wasp, Teen Titans GO! to the Movies, Doraemon The Movie 2018, Cinderella, The Grinch, Bernie The Dolphin, Ralph Breaks the Internet : Wreck-It Ralph 2
อ่านเพิ่มเติม: