ส.ส. แบบแบ่งเขต ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ ในนาม ‘กลุ่มด้านขวานไทย’ เปิดที่ทำการกลุ่มและนิมนต์พระมาเจิมป้ายกลุ่ม ที่ถนนพิชัย เขตดุสิต โดยมี ส.ส. ภาคใต้ที่มาร่วม 8 คน ได้แก่ นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส. จังหวัดตรัง, นายรงค์ บุญสวยขวัญ, และนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราช, นายวัชระ ยาวอหะซัน และนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส. จังหวัดนราธิวาส, นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส. จังหวัดภูเก็ต, นายพยม พรหมเพชร และร้อยตำรวจเอก อรุณ สวัสดี ส.ส. จังหวัดสงขลา ขาด 5 คนที่ติดธุระส่วนตัว คือ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราช, นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส. จังหวัดภูเก็ต, นายวันชัย ปัญญาศิริ และนายศาสตรา ศรีปาน ส.ส. จังหวัดสงขลา, นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส. จังหวัดยะลา
นายนิพันธ์ กล่าวว่า กลุ่มนี้ได้ก่อตั้งขึ้นมานานแล้ว แต่ที่มาเข้าร่วมทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะนโยบายตรงกัน ทั้งนี้พี่น้องต้องการพัฒนาการท่องเที่ยว, ประมง, เกษตร และแก้ปัญหาอีกหลายเรื่อง ซึ่งที่ ส.ส. ในกลุ่มทุกคนเข้ามาตรงนี้ได้ก็เนื่องจากการเสนอนโยบาย และทำให้ชาวใต้มั่นใจว่าพรรคจะนำการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาสู่ภาคใต้ได้จริง และในส่วนของการจัดตั้งรัฐบาล กลุ่ม ส.ส. ภาคใต้มี 13 คน หรือรวมแล้วกว่าหนึ่งล้านเสียงจากประชาชน ชาวใต้เองก็คงจะอยากเห็นตัวแทนของเขาเข้ามาทำงานบริหารขับเคลื่อนนโยบายที่ให้ไว้กับพี่น้อง และต้องการพัฒนาประเทศต่อไป จึงอยากให้ให้พลังประชารัฐเห็นความสำคัญของกลุ่มด้ามขวานไทย
ด้านนายสายันต์ กล่าวว่า พปชร. เป็นพรรคเดียวที่ได้ ส.ส. จากทุกภาค ที่ผ่านมาตนสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีและให้เกียรติท่านในการพิจารณาเลือกรัฐมนตรีมาร่วม ครม. แต่เมื่อมี ส.ส. ทุกภาคก็ควรมีรัฐมนตรีที่มาจากทุกภาค แต่ยืนยันว่าทางกลุ่มไม่เคยต่อรองและกดดันนายกรัฐมนตรี
นายรงค์ กล่าวว่า สถานที่นี้เป็นพื้นที่พบปะพี่น้องชาวใต้ และผู้สนับสนุนกลุ่มของตน เพื่อที่จะปรึกษาหารือกันอย่างรอบด้านก่อนเข้าประชุมพรรคและก่อนประชุมสภา เพื่อให้การทำงานมีคุณภาพมากขึ้น และเป็นที่พักของ ส.ส. ภาคใต้เวลาขึ้นมาประชุมสภาด้วย จึงเลือกให้ใกล้กับรัฐสภา และยืนยันว่าไม่ได้กดดันอะไร เพราะการมีกลุ่มในสภาเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะ พปชร. ที่มี 115 เสียงก็ต้องมีหลายกลุ่ม
ทั้งนี้ ทางกลุ่มไม่มีข้อต่อรองใดๆ เพราะชาวใต้ต้องการเห็นความสงบจึงเลือก พล.อ. ประยุทธ์ แม้จะเจ็บปวดที่ราคาสินค้าเกษตรและเศรษฐกิจไม่ดี เพราะเชื่อว่าวันนี้ปัญหาชาวใต้จะได้รับการแก้ไขจากนายกรัฐมนตรี และไม่อยากเป็นปัญหา ปล่อยให้นายกรัฐมนตรีมีสิทธิเลือกรายชื่อ ครม. ให้ออกมาดีที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากกลุ่มด้านขวานไทยมีสิทธิ์เสนอชื่อรัฐมนตรีตัวแทนคนใต้จะเป็นใคร และกระทรวงอะไร นายนิพันธ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มเห็นควรให้เป็น พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล อดีต สปช. แต่จะเป็นกระทรวงไหน กลุ่มไม่ระบุเงื่อนไข หรือจะเลือกคนใดคนหนึ่งในกลุ่ม 13 ส.ส. เป็นรัฐมนตรีก็ได้ แต่หากนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วว่าทางกลุ่มไม่ได้โควต้ารัฐมนตรี ก็ไม่เป็นไร และยืนยันจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไป แต่ที่เสนอเป้นเพียงร่าง เผื่อนายกรัฐมนตรีเห็นชอบไม่ใช่การกดดัน
นายรงค์ ยังยืนยันว่า ไม่ต้องการเอาสถานการณ์เสียงปริ่มน้ำมาทำให้พรรคแตกแยก เพราะตอนนี้พี่น้องเดือดร้อน รอนายกรัฐมนตรีตั้งคณะรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหาประเทศ ส่วนการเปิดตัวที่ทำการพรรควันนี้ ทั้งที่อยู่ในการช่วงการจัดตั้งรัฐบาล นายสายันต์ชี้แจงว่า ฤกษ์ดี และนายรงค์ กล่าวต่อว่า และวันพุธนี้จะมีการประชุมสภา จึงต้องเปิดที่ทำการกลุ่มเพื่อให้ ส.ส. มาประชุมกัน กลุ่มของตนเป็นพลังประชารัฐรุ่นแรก รักพรรค และไม่มีทางทิ้งพรรคไปไหน
นายนิพันธ์ กล่าวต่อว่า หากกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ไปอยู่ที่พรรคอื่น ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าต้องมีอำนาจในการดำเนินนโยบายอยู่แล้ว จึงไม่กังวลว่ากระทรวงเกษตร จะอยู่กับพรรคไหน เพราะจะประสานงานทำงานร่วมกันได้เช่นกัน แม้ว่าการไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี อาจส่งผลกระทบให้เสียเครดิตในการเลือกตั้งครั้งหน้า และต้องไปอธิบายกับประชาชนในพื้นที่ว่าทำไม แต่ตนเห็นว่าสิ่งสำคัญคือการสื่อสารเชื่อมโยงปัญหาของชาวบ้านกับผู้บริหารอย่างไรมากกว่า