การเมือง
รีแบรนด์ 'บิ๊ก คสช.' เป็น '2 ลุง' ลดโทน 'ป๋าป้อม - พี่ใหญ่ตู่' ?
อย่างมากเป็นเพียงทีมงานหน้าห้อง ที่ทำเนียบฯ จัดทำให้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ทราบว่าเป็นทีมใด ด้วยรูปถ่ายหลายภาพที่เอ็กซ์คลูซีฟและเป็นสถานที่เฉพาะ เช่น บนเครื่องบิน หรือบนเฮลิคอปเตอร์ ขณะลงพื้นที่ เป็นต้น
ล่าสุดมีภาพถ่ายเผยแพร่ผ่าน เพจ Gen.Prayut Chan-o-cha ทีมงาน เป็นภาพ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเซลฟี่ที่บ้านพัก กับ สุนัขบางแก้ว ชื่อ ‘เจ้าหมี’ ของ นายกฯ ถือเป็นสุนัขตัวโปรด ที่ นายกฯ ส่งให้แอดมินเพจ ที่เชื่อกันว่าเป็นทีมงานหน้าห้อง ที่ ทำเนียบฯ นำมาเผยแพร่
ถือเป็นภาพถ่ายแรกๆ ของนายกฯ ที่ถูกเผยแพร่ในมุมพักผ่อนภายในบ้านพัก เพราะก่อนหน้านี้แทบไม่มีภาพลักษณะนี้ปรากฏออกมา
ด้วยนายกฯ มีความเป็นส่วนตัวในเรื่องครอบครัวที่ไม่ต้องการให้มาเกี่ยวข้องทางการเมือง และบ้านพักนายกฯ ก็น้อยคนที่จะได้เข้าไป ซึ่งต้องจับตาบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะเป็นอย่างไรในทางการเมือง
แต่ปรากฏการณ์สนับสนุนที่เกิดขึ้นกับระดับ 'รองนายกรัฐมนตรี' ถือว่ามีไม่มากนัก โดยเฉพาะกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่มักมีเพจโจมตีเสียมากกว่า
ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ยอมรับว่า ไม่รู้เรื่องมีเพจมาสนับสนุน ปกติเห็นแต่เพจโจมตี อีกทั้งไม่รู้สึกเสียใจหรือดีใจที่มีเอฟซีทำเพจให้ เพราะตนทำงานอย่างเดียว
เป็นที่น่าสนใจว่าเพจดังกล่าวถูกตั้งขึ้นหลังมีคำสั่งตั้ง ‘รองโจ๊ก’ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ท่องเที่ยว นายตำรวจคนสนิท พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกฯ (ฝ่ายความมั่นคง) ในการดูแลงานด้านกฎหมายและกิจการตำรวจ โดย พล.อ.ประวิตร มีอีกตำแหน่งคือ ปธ.คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ด้วยนั่นเอง
ทำให้มีการมองว่าเพจนี้ถูกสร้างโดยทีมงานของ ‘รองโจ๊ก’ หรือไม่ ?
เพราะ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เองก็มีเพจของตนเองที่มีผู้ติดตามเกือบ 2 แสนราย และมีการทำอินโฟกราฟฟิก รูปภาพและคลิปต่างๆ ที่เป็นระบบ อีกทั้งมีการพยายามสื่อสารกับลูกเพจ ซึ่งเป็นโมเดลที่คล้ายๆ กับการนำมาทำเพจของ พล.อ.ประวิตร ด้วย
ซึ่ง พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม หรือ โฆษกประจำรองนายกฯ ยืนยันว่า ทีมโฆษกไม่ได้เป็นผู้จัดทำ และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จัดทำ แต่การเกิดขึ้นของเพจต่างๆ ก็มี 2 ด้าน ทั้งสนับสนุนและเพจด่า แต่เพจที่ด่าก็ต้องดูว่าทำผิดกฎหมายหรือไม่ เช่น การล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การกล่าวข้อความเท็จ เป็นต้น ซึ่งมี พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ในการดำเนินการอยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้มาในชื่อเพจที่แปลกตา ไม่ได้ชื่อว่า พล.อ.ประวิตร – รองนายกฯประวิตร แต่ใช้ชื่อว่า “มุมน่ารักของ ลุงป้อม”
แน่นอนว่าเพจนี้ต้องการสร้างภาพลักษณ์ให้ พล.อ.ประวิตร ดู ‘น่ารัก’ และเล่นบท ‘ลุง’ เช่นเดียวกับ ‘ลุงตู่’ ที่ทำสำเร็จมาแล้ว เพราะเวลา พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ จะมีชาวบ้านเรียกหรือทำป้ายคำว่า ‘ลุงตู่’ แทน ทำให้ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ลดความเป็นผู้นำคณะรัฐประหารลงไป เหลือเพียงภาพเป็น ‘ลุง’ ที่เคยเป็น ‘ทหาร’ มาก่อน และทำให้มีความใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น
คล้ายกับกรณีของ ‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ ที่เรียกแทนตัวเองว่า ‘ลุงกำนัน’ ช่วง กปปส. ชุมนุม นั่นเอง
ซึ่งเพจมุมน่ารักฯ ได้มีการใช้ภาพ ‘การ์ตูน’ ในการนำเสนอ พล.อ.ประวิตร ด้วย
แต่คำว่า ‘ลุงป้อม’ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นช่วง พล.อ.ประวิตร เป็นประธานคณะกรรมการสร้างความปรองดองฯ เมื่อต้นปี 2560 ที่เชิญพรรคและกลุ่มการเมืองมาพูดคุย ในการจัดทำร่างสัญญาประชาคม 10 ข้อ โดยในช่วงนั้นได้มาในธีม ‘ลุงป้อมปรองดอง’ นั่นเอง
จึงทำให้ชื่อ ‘ลุงป้อม’ ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อเข้าถึงทุกๆ ฝ่าย แถมด้วยคำว่า ‘มุมน่ารัก’ ก็เพื่อให้เป็นที่น่าสนใจ โดยเพจพยายามนำเสนอ พล.อ.ประวิตร ในมุมที่คนภายนอกไม่ค่อยรู้ถึงความรักเพื่อน รักน้อง ของ พล.อ.ประวิตร หรือแม้แต่เรื่องนาฬิกาหรู ก็ใช้พื้นที่นี้ชี้แจง เป็นต้น
อีกทั้งพยายามสร้างให้ พล.อ.ประวิตร เป็นลุงที่ ‘เข้าได้กับทุกฝ่าย’ โดยมีการแชร์ข้อความกับภาพการ์ตูนว่า “น้าปูคนสวย ลุงกำนันคนจริง อาทักษิณคนเก่ง พี่มาร์ครูปหล่อ ลุงตู่สุดฮา ลุงป้อมน่ารัก”
หากย้อนกลับไป พล.อ.ประวิตร ล้วนมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลเหล่านี้เป็นทุนเดิม โดย พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ช่วงรัฐบาลทักษิณ ที่โยก พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ลูกพี่ลูกน้องไปเป็น ผบ.สส. แทน เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.ประวิตร เป็น ผบ.ทบ.
อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร ยังเป็น รมว.กลาโหม ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ทำงานเคียงข้าง ‘สุเทพ’ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง รับมือกลุ่มคนเสื้อแดง ในเวลานั้นด้วย
ทั้งนี้ การเปิดเพจมาแรกๆ ก็นำเสนอถึง ‘มุมน่ารัก’ อย่างตรงไปตรงมา ขอเป็น ‘ติ่งลุงป้อม’ เช่น ชอบที่ลุงป้อมพูดตรง รักในความอดทนที่โดนต่อว่า เป็นห่วงเรื่องสุขภาพร่างกาย ขอบคุณที่แบกรับภาระของคนทั้งประเทศ ชอบที่ลุงไม่ประดิษฐ์คำพูดหรือสร้างภาพ สงสารลุงที่ถูกหลายๆ ฝ่ายโจมตี รักในความพยายามทำในสิ่งที่ดี พวกเรารู้ว่าลุงยืนอยู่ในจุดนี้เพื่อใคร เป็นต้น และมีธีมชัดเจน คือ “รักลุงป้อมไม่ผิด สิทธิ์ของหัวใจ”
ที่สำคัญเพจนี้มีแอดมินเพจที่คอยพูดคุยกับกลุ่มกองหนุน และรับมือกลุ่มคนไม่สนับสนุน ที่เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ด้วยแต่ไม่เน้นตอบโต้ และผ่านมาประมาณ 1 สัปดาห์ มีผู้กดติดตามกว่า 2,000 แอคเคาท์แล้ว ที่สำคัญแอดมินเพจนี้ก็ติดตามความเคลื่อนไหวจากสื่อไม่น้อยด้วย
อย่างไรก็ตาม เพจการเมืองที่ใช้ภาพการ์ตูนกับผู้นำ คสช. มีเพจนำร่องมาก่อนหน้านี้คือเพจ ‘ลุงตู่ตูน’ ที่ถูกตั้งเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ผ่านมา 3 เดือน มีผู้กดถูกใจเพจนี้กว่า 1.7 หมื่นแอคเคาท์ ได้นำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวการ์ตูน ควบคู่กับผลงานรัฐบาล แต่ยังคงความเป็นทางการอยู่ ไม่ผ่อนคลายเท่าเพจของ พล.อ.ประวิตร ในการใช้ภาษาหรือเนื้อหาที่นำเสนอต่างๆ
ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตาต่อไป หลังเดือน ก.ย.นี้ ที่ คสช.จะเริ่ม ‘ผ่อนคลายพรรค’ ให้สามารถดำเนินกิจกรรมพรรคในเรื่องต่างๆได้ แต่ยังไม่ให้มีการหาเสียงนั้น การตั้งเพจการเมืองสนับสนุน คสช. เหล่านี้ จะทำหน้าที่และรับมืออย่างไร
เพราะช่วงหลังปี 2554 มานั้น การเติบโตทางโซเชียลมิเดียก้าวกระโดด การหาเสียงของนักการเมืองและพรรคต่างๆถูกใช้ในพื้นที่โซเชียลมิเดียมากขึ���น เพราะต้นทุนต่ำและมีผลออกไปกว้างขวาง แต่ผลอีกด้านคนที่ไม่สนับสนุนก็สามารถทำขึ้นมาต่อต้านได้ง่ายเช่นกันด้วย
เพจมุมน่ารักของลุงป้อม อาจถูกใช้สะท้อนจุดยืนของ พล.อ.ประวิตร ถึงอนาคตทางการเมืองด้วย เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงไม่ลืมสัญญาว่าจะประกาศอนาคตทางการเมืองของตนเอง ว่าจะลงสนามการเมืองอีกครั้งหรือไม่ ?
แม้ พล.อ.ประวิตร จะออกมาระบุแล้วว่า “ผมพอแล้ว” ผ่านการให้สัมภาษณ์เพจ Room44 เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ได้สัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร อย่างใกล้ชิด และถามคำถามอย่างตรงไปตรงมา เช่นเรื่องนาฬิกาหรู เป็นต้น
เป็นที่น่าสนใจว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร มักไม่ให้สัมภาษณ์สื่อสำนักใดสำนักหนึ่งมากนัก หรือ ‘ไมโครโฟนเดี่ยว’
แต่จะให้ในวงสัมภาษณ์ใหญ่มากกว่า หรือ หลายไมโครโฟน จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ต่อเนื่องกันมา 2 สัปดาห์ ถึงการวางตัวของ พล.อ.ประวิตร ที่น่าสนใจไม่น้อย ที่ผ่อนคลายตัวเองลง ว่าการจะเป็น ‘ลุงที่น่ารัก’ จะกู้เรตติ้ง-กองหนุนได้หรือไม่ ?
หรือปรากฏการณ์นี้ พล.อ.ประวิตร จะลดโทนความเป็น ‘พี่ใหญ่-ป๋าป้อม’ ลงในวันที่ปัจจัยอำนาจทางการเมืองหลายอย่างเปลี่ยนไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
