พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า ที่ประชุมหารือถึงการจัดทำแผนความมั่นคงให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่ จะเป็นพื้นฐานของการรักษาความสงบเรียบร้อยทั้งในและต่างประเทศที่จะส่งผลถึงด้านเศรษฐกิจ สังคม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานด้านความมั่นคง ที่จะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งตนพยายามที่ให้ทุกหน่วยงานมีบทบาทในการเสนอแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสม

ส่วนการดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือ ซีซีทีวี ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังหารือถึงการกำหนดบทบาทในการใช้ซีซีทีวี ให้ชัดเจนทั้งในเชิงป้องกันและปราบปราม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมยอมรับว่าการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ในหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่สามารถทำได้ แต่ทุกหน่วยงานจะต้องสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดเข้าหากันให้ได้

ส่วนแผนแม่บทการรักษาความปลอดภัยทางทะเล มีความเกี่ยวข้องกับมิติการ การท่องเที่ยวทางทะเล การค้ามนุษย์ การลักลอบข้ามพรหมแดนทั้งทางบกและทะเลที่ผิดกฏหมาย ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงจะต้องบูรณาการด้านกฎหมายร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้มีความสอดคล้องกัน อย่างไรก็ตามได้ให้ทุกหน่วยงานรับข้อสังเกตไปพิจารณา เผื่อปรับปรุงแก้ไขการประสานงานด้านความมั่นคงให้มีความสอดคล้องกันให้ได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาประกาศสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติในด้านก่อการร้าย และเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พร้อมพิจารณาให้ความเห็นต่อ ร่างแนวทางการกำหนดท่าทีของไทยต่อกลุ่มประเทศต่างๆพ.ศ. 2561 - 2563 เพื่อกำหนดท่าที่ของไทยต่อกลุ่มประเทศต่างๆ ให้สอดคล้องกับผลประโยชน์แห่งชาติในปัจจุบัน