พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ระบุขณะเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศ ในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 4 ตอนหนึ่งว่า การปฏิรูประบบราชการจะทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนให้ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง และต้องพยายามสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างรัฐบาลข้าราชการและประชาชน ดังนั้นจึงมีพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด เพื่อให้การทำงานเกิดความโปร่งใส และใช้งบประมาณของรัฐตามกติกาและรัฐไม่เข้าไปก้าวล่วง
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากไปโต้แย้งกับใครว่างบประมาณลงไม่ครบทุกพื้นที่ ยืนยันงบประมาณลงทุกจังหวัดและมีความเชื่อมโยง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ และเชื่อมโยงประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ส่วนเดินที่การที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าไทยแลนด์ 4.0 และโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นการสร้างความฝันที่ใหญ่เกิดไปนั้น คิดแบบนั้นประเทศก็อยู่แบบนี้ ดังนั้นต้องสร้างวิสัยทัศน์ และอนาคตในอีก 20 ปี ในการสร้างความฝันให้เป็นไปตามที่หวังไว้ และขออย่าเอากฏหมายมาสู้กัน และตนเองก็มีความฝันทุกวัน โดยมีความฝันในการสร้างต้นไม้ของพ่อให้เกิดขึ้นจริง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ทำทำเอื้อประโยชน์นายทุน แต่ต้องการเอื้อประโยชน์ประชาชนทุกฝ่ายในผืนแผ่นดินนี้ ส่วนจะผิดจะถูกขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น ยืนยันโครงการไทยนิยมยั่งยืน เป็นการฝึกอาชีพไม่ได้เอาเงินมาให้เพียงอย่างเดียว แต่เอาเป็นการฝึกอาชีพเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้มีรายได้น้อย ขอทุกคนสร้างความเข้าใจ และโครงการต่างๆเดินหน้าไปได้เพราะสถานการณ์บ้านเมืองเกิดความเรียบร้อยส่วนความหมายของประชาธิปไตยไทยนิยมนั่น คือ การทำความดีงามให้กับประเทศ ไม่ใช่ไปนิยมอะไรหรือไปนิยมตนเอง
นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ ยังได้กล่าวเชิญชวนทุกคนไปร่วมงานอุ่นไอรักคลายความหนาว ในระหว่าง 8 ก.พ.-11 มี.ค. 2561 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ซึ่งเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) ตนเองได้ทดลองสวม โจงกระเบน แต่ส่วนตัวยังขอทำใจอยู่ ซึ่งในวันนี้ตนเองก็จะสวมชุดขาวไปร่วมงานดังกล่าวด้วย
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่า สหรัฐอเมริกาไม่ได้กดดันให้ไทยจัดการเลือกตั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 7 ก.พ. พล.อ.โจเซฟ เอฟ ดัน ฟอร์ด จูเนียร์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมกองทัพสหรัฐอเมริกา เข้าพบ ซึ่งสหรัฐเองไม่ได้ถามตนสักคำ แต่ได้ให้กำลังใจ เพื่อให้ได้ก้าวไปสู่การเป็นประชาธิปไตย ซึ่งส่วนตัวได้ยืนยันว่าจะเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย รวมถึงความจำเป็นขณะนี้ ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็มีความเข้าใจ ซึ่งทางสหรัฐอเมริกาเองก็ขอให้ไทยประสบความสำเร็จ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาของประเทศไทยก็มีปัญหาของประเทศไทย ซึ่งปัญหาแต่ละอย่างก็แตกต่างกับอเมริกา ดังนั้นตนจึงอยากให้คนไทยรู้ถึงปัญหาของประเทศ เพราะไทยกับอเมริกา แตกต่างกันที่ สังคม การศึกษา อาชีพ รายได้ ดังนั้นหากมีความแตกต่างก็ต้องมีวิธีการเดินหน้าไปสู่การประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งมีสองอย่างที่กำหนด คือ ตัวนายกรัฐมนตรีเอง และเป็นไปตามกฎหมาย