นายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กแซวเพจพรรคประชาธิปัตย์ ช่างกล้าออกตัวว่าเป็นพรรคที่ยืนหยัด ปกป้องประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ หลังเพจพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ กล่าวเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2561 ว่า “6 เมษายน นี้ พรรคประชาธิปัตย์ จะมีอายุ 72 ปี ซึ่ง 72 ปีที่ผ่านมานั้น อุดมการณ์ของพรรคฯ มีความชัดเจนยืนหยัดไม่เคยเปลี่ยน เราได้มีการต่อสู้ กับเผด็จการทุกรูปแบบ เราปกป้องยึดมั่นประชาธิปไตย ยึดมั่นในระบบนิติรัฐ นิติธรรม ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ พรรคได้มีบทบาทในการกอบกู้วิกฤติของชาติหลายครั้ง มีโอกาสทำงานเป็นรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นไม่เพียงแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่วางรากฐานที่สำคัญของสังคมไทย และหลายยุคหลายสมัยก็มีโอกาสทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ตรวจสอบ รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน”

นอกจากนายพานทองแท้ จะโพสต์แซวในเฟซบุ๊กตัวเองแล้ว ยังมีคนเข้าไปคอมเมนต์ในเพจพรรคประชาธิปัตย์อย่างมากมาย ทั้งแง่บวกและแง่ลบ

ด้าน นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้กล่าวพาดพิงหัวหน้าและพรรคประชาธิปัตย์ ว่า

เห็นข่าวที่เสนอ เรื่องนายพานทองแท้ ชินวัตร พาดพิงกระแหนะกระแหนพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าพรรคแล้ว รู้เลยว่านายพานทองแท้ไม่เคยศึกษาบทเรียนประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะบทเรียนที่เสียงข้างมากในระบบประชาธิปไตย ที่ใช้เสียงข้างมากในการย่ำยี ทำลายระบบประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ว่าพรรคจะไม่สนับสนุนระบบและวิธีแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบหรือวิธีการของรัฐบาลใดๆ นี้คืออุดมการณ์พรรคที่มีมาตลอด 72 ปี พรรคยืนหยัดได้มา 72 ปี เราเป็นได้หมดแพ้เราก็เป็นฝ่ายค้าน ชนะก็เป็นรัฐบาล และขณะนี้แม้จะมีการยึดอำนาจแต่ก็เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ยังเปิดอย่างเป็นทางการไม่มีวันหยุดเพื่ออยู่เคียงข้างประชาชน 

พรรคยืนหยัดปกป้องประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ แม้เป็นเสียงข้างน้อยแต่ได้ทำให้เห็นว่าเราก็เป็นฝ่ายค้านที่ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา คอยเตือนคอยตรวจสอบรัฐบาลเพื่อไม่อยากให้เกิดเงื่อนไขนำไปสู่การปฏิวัติ แต่เสียงข้างมากไม่เคยสนใจ 

แต่เข้าใจว่าความหมายประชาธิปไต���ของนายพานทองแท้คงจดจำแต่พฤติกรรมที่พรรคของบิดาของคุณพานทองแท้และครอบครัวได้สร้างขึ้นมา คนในพรรคซื้อเสียงจนถูกยุบพรรค คนในพรรคโกงจนติดคุกบ้างก็หนีไปต่างประเทศ คนในพรรคพยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของพวกตนจนศาลตัดสินว่าออกกฎหมายโดยไม่ชอบ คนในพรรคออกกฎหมายล้างผิดให้คนที่เผาบ้านเผาเมืองคนที่คดโกงประเทศ คนในพรรคที่พยายามสร้างหนี้ให้ประเทศเป็นร้อยปีโดยการกู้ยืมเงินสองล้านล้าน คนในพรรคที่ออกนโยบายมาเพื่อโกงเงินของแผ่นดินมากที่สุดเกือบ 1 ล้านล้านบาท เช่น กรณีโกงในโครงการรับจำนำข้าว คนในพรรคที่ช่วยกันเสียบบัตรแทนกันในสภาเพื่อประโยชน์ของพวกตน คนในพรรคที่พอศาลตัดสินก็ออกมาแถลงว่าไม่ยอมรับอำนาจตุลาการ คนในพรรคที่บอกว่าจะพัฒนาจังหวัดที่เลือกพรรคเราก่อน นี้ต่างหากที่เป็นเหตุแห่งเงื่อนไขเรียกทหารให้ออกมาปฏิวัติ 

ประชาธิปัตย์ไม่เคยเรียกทหารให้ออกมายึดอำนาจ รัฐบาลที่มีพฤติกรรมแบบนี้จะให้ประชาชนยอมรับได้อย่างไร คนที่ออกไปต่อสู้ร่วมกับประชาชนแน่นอนว่าหลายคนที่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าเขาจะเป็น ส.ส. หรือตำแหน่งอะไร แต่เขาเหล่านั้นยังมีสถานะความเป็นประชาชนคนหนึ่งในประเทศที่กล้าหาญเขาแยกตัวออกจากพรรคเพื่อออกมาต่อสู้กับรัฐบาลทรราชได้ เขาเหล่านั้นไม่ได้ไปเพราะพรรคมีมติ เขาเหล่านั้นไม่ได้ไปทำสิ่งที่ชั่วร้าย เขาเหล่านั้นไม่ได้ไปเผาบ้านเผาเมือง 

ต้นเหตุที่ทำให้ทหารออกมาปฏิวัติก็คือพรรคพวกคุณพานทองแท้ทั้งนั้น ที่พูดว่าอายอยากแทรกแผ่นดินหนีเมื่อเห็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า “ประชาธิปัตย์ ยืนหยัดปกป้องประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ”เรื่องนี้ไม่น่าอายเพราะคือความจริง แต่ถ้าเป็นตัวผมผมจะอายมากถ้าพ่อหรืออาผมหนีคดีแล้วแทรกแผ่นดินหนีไปอยู่ต่างประเทศนี้คือสิ่งที่น่าอับอายในความคิดของผม