ไม่พบผลการค้นหา
ตำรวจท่องเที่ยว จับกุมนอมินีหลอกผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเกาะสมุย เสียหายมูลค่าหลายล้านบาท

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายกว่า 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและเกาะสมุย ถูกบริษัททัวร์ดังกล่าว หลอกลวง สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท จึงได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.บ่อผุด และมีการนำเสนอข่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนศปอส.ตร.สนธิกำลังสภ.บ่อผุด ร่วมตรวจสอบ โดยเบื้องต้นพบว่าบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 4/164 ม.2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีกรรมการผู้มีอำนาจลงนามจำนวน 3 ราย ได้แก่ นายสมศักดิ์ บุรุษชาติ, นายพัทธ์พล ราชบัณฑิต และนายหลิว เสี่ยวเฟย (สัญชาติจีน) อีกทั้งพบความเชื่อมโยงมีลักษณะของการดำเนินธุรกิจแบบนอมินี เนื่องจากเจ้าของเงินทุนและผู้มีอำนาจ บริหารบริษัทฯที่แท้จริง คือ นางฉางเยี่ยน เหริน อายุ 42 ปี สัญชาติจีน ส่วนกรรมการอีก 3 คน เป็นเพียงพนักงานของบริษัท ที่นำชื่อมาใช้ในการจดทะเบียนบริษัทเท่านั้น จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ

โดยพฤติกรรมของ บริษัท โรแมนติก สมุย จำกัด จะรับนักท่องเที่ยวมาจากประเทศจีน จากนั้นจะมาว่าจ้างผู้ประกอบการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและเกาะสมุย ให้มาช่วยนำนักท่องเที่ยวดังกล่าวท่องเที่ยวไปตามโปรแกรมที่แขกแต่ละคนจองไว้ ในระยะแรกจะสร้างความเชื่อใจโดยการชำระให้ผู้ประกอบการเป็นเงินสดก่อน แล้วจึงจะนำนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ ต่อมาเมื่อผู้ประกอบการรู้สึกไว้วางใจแล้ว บริษัทฯ นี้จะใช้การวางบิล หรือใช้เครดิต และค่อยมาชำระหนี้ในภายหลัง ซึ่งจะค้างชำระไปเรื่อยๆ จนผู้ประกอบการต้องไปติดตามทวงถาม ซึ่งได้บ่ายเบี่ยงมาตลอด จากนั้นบริษัทนี้ก็จะไปเริ่มติดต่อ ทำธุรกิจกับผู้ประกอบการรายอื่นแทนรายเดิม และก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก อย่างไรก็ตามขณะนี้มีผู้เสียหายที่เข้ามาร้องทุกข์แล้ว จำนวน 20 ราย

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ได้รู้จักกับนางฉางเยี่ยน เหริน ซึ่งเป็นนายทุนชาวจีนตั้งแต่ปี 2557 ก่อนที่นางฉางเยี่ยน เหริน จะชักชวนให้มาเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวราวเดือนกุมภาพันธ์ โดยได้ค่าจ้างเดือนละ 3 หมื่นบาทพร้อมกับข้อเสนอปลายปีมีเงินปันผล ซึ่งตนยอมรับว่า ไม่รู้ข้อกฏหมาย คิดว่าเป็นการร่วมทุนจึงได้ตอบตกลง อย่างไรก็ตามลูกทัวร์ส่วนใหญ่มาจากเมืองฉางชา ซึ่งอยู่มณฑลหูหนานทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในส่วนของนายทุนชาวจีนที่ถูกออกหมายจับนั้นตนทราบว่าวีซ่าหมดอายุและได้เดินทางออกนอกประเทศไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 36และ 41 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ่อผุดดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ส่วนนางฉางเยี่ยน เหริน ซึ่งเป็นนายทุน เจ้าของบริษัทตัวจริง ขณะนี้เชื่อว่าหลบหนีอยู่ต่างประเทศ โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งหมายจับนายทุนชาวจีนรายนี้ ให้กับทางการจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป