ไม่พบผลการค้นหา
รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่เกาะเต่า แถลงชี้แจงหลังตรวจสอบปมสงสัยทั้งหมด พร้อมสอบปากคำ 12 ผู้ต้องหา แชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จจากเพจของสมุยไทม์ และ CSI LA ล่าสุด 12 คนแชร์ได้ประกันตัวชั้นสอบสวน

วานนี้ ( 6 ก.ย. 2561) พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8, ร่วมกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2, และนายเกริกไกร สงธานี นายอำเภอเกาะพะงัน ร่วมกันแถลงข่าวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรณีที่ นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี อ้างว่าเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะเต่าแล้วถูกวางยาและโดนข่มขืน ทำให้เพจ 'สมุยไทม์' และ 'CSI LA' นำข้อมูลเหตุการณ์ดังกล่าวไปลง และนำภาพของชายไทย 2 คนมาลงทำให้คนอ่านเข้าใจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมและข่มขืนชาวอังกฤษ 2 ศพ เมื่อปี พ.ศ.2557 และกรณีของนักท่องเที่ยวสาวในครั้งนี้ ต่อมาชายไทย 2 คนได้มาแจ้งความเอาผิดกับแอดมินเพจ 'สมุยไทม์' และ 'CSI LA' และคนที่แชร์อีก 12 คน ต่อมาศาลจังหวัดเกาะสมุยได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 14 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ที่แชร์ได้ทั้งหมด 12 คนที่อยู่ในประเทศไทย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว สร้างความเสียหายต่อมาตรการด้านการป้องกันรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการตรวจสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) นำโดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เดินทางไปตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในประเด็นการลงข้อความยืนยันว่าเกิดเหตุวางยาและข่มขืนที่พื้นที่เกาะเต่า

กรณีทางเพจ 'CSI LA' โพสต์ข้อความระบุว่ากล้องวงจาปิดบริเวณที่เกิดเหตุที่ผู้เสียหายอ้างถึงเสียหมดทุกตัว และกรณีที่เพจ 'สมุยไทม์' นำภาพของชายไทย 2 คน มาโพสต์ข้อความทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าทั้ง 2 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมและข่มขืนชาวอังกฤษ 2 ศพ เมื่อปี พ.ศ. 2557 และกรณีของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษในครั้งนี้ และหลังจากการตรวจสอบเหตุการณ์ทั้งหมดพบว่า ไม่เป็นความจริงตามที่นักท่องเที่ยวสาวกล่าวอ้างถึง หลังจากนั้นทางพนักงานสอบสวน สภ.เกาะเต่า จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับน.ส.ซูซาน เอมมิเร่ สัญชาติอังกฤษ แอดมิน 'สมุยไทม์', นายประมุข อนันตศิลป์ แอดมินเพจ 'CSI LA' และคนแชร์ 12 คน ที่เสนอข้อมูลอันเป็นเท็จโจมตีเกาะเต่า ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวปรเทศไทย ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า มีสื่อต่างประเทศหลายสื่อพยายามตีความว่าทำไมถึงรีบยุติการสอบสวน และทำไมรีบจบ จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น และได้บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นการตรวจสอบไม่ใช่การสอบสวน การตรวจสอบครั้งนี้เป็นการตรวจสอบตามพยานหลักฐาน ณ วันนี้ สถานทูตอังกฤษยังชื่นชมว่าตำรวจไทยทำงานเร็วมาก ทุ่มเทมาก ขนาดยังไม่ได้สอบปากคำผู้เสียหายยังไปค้นหาพยานหลักฐานกันขนาดนี้

และการจับกุมคนแชร์ 12 คนที่อยู่ในประเทศไทย เป็นการบังคับใช้กฎหมาย เป็นการปฏิบัติให้เป็นไปตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในเรื่องของการสอบสวน การวิเคราะห์ และการติติงสามารถทำได้ แต่เรื่องในการบิดเบือนข้อเท็จจริงทำให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณะชน ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือทำให้ผู้ที่ถูกกล่าวอ้างอับอายเสื่อมเสีย เหล่านี้เป็นความผิดทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันเดียวกันนี้ทางญาติของผู้ต้องหาที่แชร์เพจทั้ง 12 คน ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 60,000 บาท เพื่อประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนให้ทันภายในคืนนั้น โดยทุกคนได้รับการประกันตัวหมดแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง