ปรับ ครม. ยังคลุมเครือ นายกฯ วอนสื่อลดการคาดเดา
โผ ครม. ที่สื่อพยายามทำนายออกมา อาจส่งแรงตึงเครียดรัฐบาลจนนายกรัฐมนตรีออกมาปรามสื่อให้ลดการนำเสนอเชิงคาดเดา เพราะไม่เป็นผลดีกับใคร อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่คลุมเครือยิ่งกระตุ้นให้ต้องจับตาว่าใครจะมาใครจะไป รวมถึงคำถามหลักทีเป็นคำถามหนัก ถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นคนสำคัญในรัฐบาลว่ายัง “รักกันดี” อยู่หรือไม่
สัปดาห์หน้ายังเป็นเรื่องที่ถูกจับจ้องอย่างใกล้ชิดต่อไป ว่าการคัดเลือกบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งซึ่งผ่านการพิจารณาของนายกฯ เองจะเป็นใครบ้าง
คืบหน้ารถไฟไทย-จีน?
จับตาความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีนช่วงกรุงเทพ - นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร มูลค่า 179,412 ล้านบาท หลังจากมีการเลื่อนตอกเสาเข็มมาแล้ว 2 ครั้ง
ครั้งแรกมีกำหนดการก่อสร้างในช่วงเฟสแรกสถานีกลางดง - ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ต่อมาประกาศเลื่อนไปอีกเป็นกลางเดือนธันวาคม โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐ
มนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมระบุว่าเนื่องจากรายงานผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และหากผ่านการพิจารณาของ สผ.ก็สามารถตอกเสาเข็มได้ทันทีภายในเดือนธันวาคม
โดยไทยและจีนได้ลงนามในสัญญาโครงการดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2560 โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 เฟสด้วยกันได้แก่ เฟสแรก คือ กลางดง - ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เฟสที่ 2 คือ ปากช่อง - คลองขนานจิตร ระยะทาง 11 กิโลเมตร เฟสที่ 3 คือ แก่งคอย - นครราชสีมา ระยะทาง 110 กิโลเมตร และเฟสที่ 4 คือ กรุงเทพ - แก่งคอยระยะทาง 110 กิโลเมตร
โดยเฟสที่ 2 - 4 ทางฝ่ายไทยกำลังเร่งรัดให้ฝ่ายจีนส่งงานออกแบบมาให้ภายใน 6 เดือนเพื่อที่ไทยจะสามารถหาผู้รับเหมาได้ทัน
แต่ทั้งนี้ แม้เฟสแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ จนกว่าการก่อสร้างทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์
รัฐบาลประกาศขจัดความยากจนภายในปีหน้า
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวในงานสัมมนาไทยแลนด์ 2018 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ภายในปี 2561 รัฐบาลจะเร่งดำเนินนโยบายแก้ปัญหาความย���กจนของประเทศและเชื่อว่าความยากจนจะหมดไป
แม้ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน ไม่ว่าจะเป็นโครงการบัตรสวัสดิการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และล่าสุดกระทรวงการคลังผุดไอเดียให้คนจนและร้านค้าธงฟ้าที่มาลงทะเบียนกับรัฐบาล ลุ้นโชคจากการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แจกรางวัลละ 1 ล้านบาททุกเดือน รวมทั้งเตรียมใช้ระบบข้อมูล Big Data เข้ามาช่วยจัดระบบสวัสดิการคนภายในเดือนธันวาคมนี้
แต่ยังมีคำถามว่าจากหลายฝ่าย นโยบายเหล่านี้ทำให้ความยากจนหมดไปจากประเทศได้จริงหรือเปล่า